NewsTitle
stringlengths
11
31.5k
Detail
stringlengths
9
78.4k
NewsDate
stringlengths
6
19
Region
stringclasses
7 values
Province
stringclasses
79 values
Department
stringclasses
169 values
Link_News
stringlengths
62
62
__index_level_0__
int64
0
248k
คลังจังหวัดสตูล เผยผลการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัดฯ งบส่วนราชการภาพรวมเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 85.97 ขณะเดียวกันพร้อมให้บริการในวันสุดท้ายของการปฏิบัติงานในช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 24.00 น.
คลังจังหวัดสตูล เผยผลการเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัดฯ งบส่วนราชการภาพรวมเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 85.97 ขณะเดียวกันพร้อมให้บริการในวันสุดท้ายของการปฏิบัติงานในช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ตั้งแต่เวลา 08.30 – 24.00 น. วันนี้ (21 ก.ย.66) นางสาวกีรติญา ทิมเมือง คลังจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ข้อมูลผลการใช้จ่ายและเบิกจ่ายงบประมาณของจังหวัดสตูล ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ วันที่ 15 กันยายน 2566 งบส่วนราชการภาพรวมการเบิกจ่ายอยู่ที่ร้อยละ 85.97 ส่วนงบประมาณจังหวัดภาพรวมการเบิกจ่ายร้อยละ 68.85 ด้านงบอุดหนุนเฉพาะกิจเบิกจ่ายแล้วร้อยละ 66.93 และเงินกันไว้เหลื่อมปี พ.ศ.2565 เบิกจ่ายรวมร้อยละ 88.49สําหรับปฏิบัติงานของสํานักงานคลังจังหวัดสตูล ในช่วงสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2566 กําหนดให้บริการดังต่อไปนี้ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 กันยายน ถึง วันพฤหัสบดีที่ 28 กันยายน 2566 ช่วงเวลาให้บริการเวลา 08.30 – 18.00 น. ส่วนในวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566 ช่วงเวลาให้บริการเวลา 08.30 – 24.00 น.ทั้งนี้ ทุกส่วนราชการในจังหวัดสตูล สามารถเข้ารับบริการได้ ตามวันเวลาดังกล่าว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 7471 1064 , 0 7472 3406 และกลุ่ม Line การเงินการคลัง@สตูล
21/9/2023
ภาคใต้
สตูล
สวท.สตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921145432345
247,375
สาธิตการทำเมนู “แกงเลียงกะแท่งหอยนางรม” กิจกรรม 1 จังหวัด 1 เมนู
จากการที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดรายชื่อผลคัดเลือก "1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น" ปี 2566 ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย (Thailand Best Local Food) "รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste" เพื่อศึกษาประวัติศาสตร์อาหาร ที่มีความสัมพันธ์กับวิถีชีวิตคนไทย ทางจังหวัดตราด จึงได้จัดสาธิตการทําเมนู “แกงเลียงกะแท่งหอยนางรม” เมนูอาหารจากกิจกรรม 1 จังหวัดสายข่าว NBT
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921151652361
247,376
โคราช จัดกิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณโคราช เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการ พัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ ยกระดับเมืองท่องเที่ยวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์และวัฒนธรรม
ที่บริเวณลานจัดกิจกรรม ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ้นทรัลพลาซ่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชรินทร์ ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา พร้อมด้วยนางอรจิรา ศิริมงคล นายกเหล่ากาชาด จ.นครราชสีมา, นายชนม์บันลือ วรรณธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา และ นายสุดที่รัก พันธ์สายเชื้อ ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมอัตลักษณโคราช เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ขอจังหวัดนครราชสีม (Korat Monogram) ภายใต้โครงการ พัฒนาด้านการท่องเที่ยวและบริการ กิจกรรมหลัก ยกระดับเมืองท่องเที่ยวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดยมีหน่วยงานภาครัฐ และ ตัวแทนภาคเอกชน 12 องค์กรร่วมกิจกรรม ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความยั่งยืนของจังหวัดนครราชสีมา (Korat Monogram) ส่งเสริมให้ประชาชนทุกกลุ่มใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เกิดกระบวนการ คิดและออกแบบอย่างสร้างสรรค์ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีองค์ประกอบที่ลงตัว งดงาม สามารถประยุกต์ใช้ได้ในทุกยุคทุกสมัย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่าสร้างสรรค์และสื่อถึงวัฒนธรรม เพื่อ สร้างความยั่งยืนของจังหวัดนครราชสีมาด้านนายชรินทร์ ทองสุข รอง ผวจ.นครราชสีมา กล่าวว่า การดําเนินโครางการฯ มีเป้าหมายก็เพื่อต้องการพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ไม่ว่า จะเป็นทางด้านเศรษฐกิจ ด้านการท่องเที่ยว และด้านการกีฬา โดยเฉพาะในเรื่องของการนําเรื่องราวประวัติศาสตร์ วิธี ชีวิต วัฒนธรรม และความเชื่อของชาวนครราชสีมา ที่มีอัตลักษณ์พื้นถิ่น สื่อผ่านลวดลายโมโนแกรม (KORAT Monogram) ที่มีเอกลักษณ์ของชาวจังหวัด สําหรับการจัดประกวดครั้งนี้มีผู้สนใจส่งผลงานเข้าประกวดมากกว่า 40 ผลงาน และได้มีการคัดเลือก เหลือเพียง 13 ผลงาน เพื่อคัดเลือกผู้ชนะเลิศให้เหลือเพียง 1 ผลงานเท่านั้น ที่ชนะเลิศเป็นลายของคนโคราช ซึ่งจะนํามาประยุกต์ใช้กันอย่างแพร่หลายต่อไป
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921161135380
247,377
ชวนท่องเที่ยวหนองคายเมืองน่าอยู่ริมฝั่งชายแดน
ปัจจุบันหลายจังหวัดมีนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว เช่นที่จังหวัดหนองคายที่ใช้ความได้เปรียบทางภูมิประเทศจากการเป็นเมืองชายแดนมีน้ําโขงกั้นกลางระหว่างไทย-ลาว ทําให้วันนี้เริ่มมีสีสันมากขึ้น ไปติดตามจากรายงานสายข่าว NBT
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921164128419
247,378
แหล่งท่องเที่ยวใหม่ Pattaya? Dinosaur Kingdom พัทยา จังหวัดชลบุรี
แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี ที่พึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการ หากได้ไปแล้วจะเหมือนอยู่ในอาณาจักรโลกล้านปี สายข่าว NBT
21/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921164222420
247,379
ผู้ว่าฯ ตรัง แถลงข่าว “มาแต่ตรัง...” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Creative tourism festival ภายใต้โครงการยกระดับและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ฝั่งอันดามัน (Premium Tourism Andaman)
วันนี้ (21 ก.ย.2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในการแถลงข่าว “มาแต่ตรัง...” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Creative tourism festival ภายใต้โครงการยกระดับและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ฝั่งอันดามัน (Premium Tourism Andaman) โดยมี นางสาวพันธิตรา สินพิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) นางสาวเพ็ญศิริรัตน์ อาจทวีกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง และ นายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครตรัง ร่วมแถลงข่าว ณ มูลนิธิกุศลสถานตรังนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า วัตถุประสงค์ในการจัดงานเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในพื้นที่เมืองเก่าตรัง โดยใช้กิจกรรมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือในการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้แก่ธุรกิจและกระตุ้นเศรษฐกิจในเขตเมืองเก่าตรัง เป็นหมุดหมายสําคัญในการขับเคลื่อนย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในเครือข่ายย่านสร้างสรรค์ประเทศไทย TCDN) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสร้างประสบการณ์ใหม่กับคนตรังและกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ผ่านกรอบแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และสอดคล้องกับเทรนด์การท่องเที่ยวของประเทศทางด้าน นางสาวเพ็ญศิริรัตน์ อาจทวีกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง กล่าววา จังหวัดตรังอนุมัติให้สํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง ดําเนินกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองเก่าอันดามัน ภายใต้โครงการยกระดับและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวคุณภาพสูงฝั่งอันดามัน (Premium Tourism Andaman) งบประมาณ 8,829,000 บาท (งบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2566) โดยบริเวณเขตเมืองเก่าตรัง ตําบลทับเที่ยง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง มติที่ประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2564 ได้ประกาศขอบเขตพื้นที่เมืองเก่าตรัง เนื้อที่ประมาณ 1.91 ตารางกิโลเมตร หรือ 1,192.95 ไร่ และขอบเขตพื้นที่ต่อเนื่อง อีกประมาณ 4.05 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,528.92 ไร่ โดยองค์ประกอบสําคัญของเมืองส่วนใหญ่กระจุกตัวหนาแน่นอยู่ในบริเวณใจกลางเมือง ซึ่งเป็นย่านศูนย์กลางพาณิชยกรรมเก่าแก่ของเมือง หรือเกาะเมืองทับเที่ยงเป็นหลัก องค์ประกอบเมืองที่สําคัญ ประกอบด้วย หอนาฬิกา สถานีรถไฟ และวิหารคริสตจักรตรัง เป็นต้น ซึ่งในการจัดกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในเขตเมืองเก่าตรัง โดยใช้การส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือ และเพื่อสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้แก่เมืองเก่าตรัง โดยใช้อิทธิพลทางวัฒนธรรม (Soft Power) ตลอดจนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการ รวมทั้งกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานรากในเขตเมืองเก่าตรัง โดยกําหนดจัดงาน 5 วัน ระหว่างวันที่ 22-26 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งในงานจะมีการแสดงแสงสีเสียงในพื้นที่ภูมิลักษณ์สร้างสรรค์ที่มีความสําคัญทางประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับอัตลักษณ์เมืองเก่าตรังภายในเส้นทางการจัดงาน เพื่อแสดงแนวคิด อัตลักษณ์บางสถาปัตยกรรม และสร้างความสนใจให้พื้นที่จัดงาน และจัดบูธร้านจําหน่ายอาหาร การแสดงงานด้านการสร้างสรรค์ และผลิตภัณฑ์ศิลปะท้องถิ่น ประมาณ 50 ร้าน นอกจากนี้มีเวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม การละเล่นพื้นบ้าน และการแสดงอื่น ๆ พร้อมทั้งการสาธิตขั้นตอนการประกอบอาหารพื้นถิ่นเมืองเก่าตรัง และงานศิลปะท้องถิ่นโดยวิทยากรอีกด้วย
21/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921173611444
247,380
ผู้ว่าฯ บึงกาฬ นำหัวหน้าส่วนราชการ และชาวบึงกาฬปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว ปรับภูมิทัศน์ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ที่ป่านันทนาการหินสามวาฬ
ที่บริเวณลานจอดรถทางเข้าชมหินสามวาฬ ป่านันทนาการหินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ ตําบลโคกก่อง อําเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อแห่งหนึ่งของจังหวัดบึงกาฬ สํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬ ได้จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปรับภูมิทัศน์ให้ร่มรื่น สวยงาม และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยมี นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมทั้งมี ปลัดจังหวัดบึงกาฬ หัวหน้าสํานักงานจังหวัดบึงกาฬ นายปราโมทย์ อรกิจ (อ่านว่า ออน-กิด) ผู้อํานวยการสํานักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดบึงกาฬในนามผู้จัดกิจกรรม หัวหน้าส่วนราชการ อาสาป่าไม้ภูสิงห์ และประชาชนร่วมกิจกรรม ซึ่งเป็นกิจกรรมปลูกต้นไม้ที่มีดอกสวยงาม เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว ปรับภูมิทัศนให้ร่มรื่น สวยงาม ภายใต้โครงการพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยว และสิ่งอํานวยความสะดวก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งนี้ เป้าหมายของกิจกรรมดังกล่าวเพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสํานึกการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ให้ชาวบึงกาฬได้เห็นคุณค่าในการบํารุงรักษาเพื่อเป็นการช่วยลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งเพื่อฟื้นคืนสมดุลให้ระบบนิเวศน์ให้ยั่งยืนในระยะยาว อีกทั้งเพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้จังหวัดบึงกาฬ รวมทั้งเป็นประโยชน์ในด้านอื่นๆ เช่น ป้องกันการพังทลายของดินบริเวณริมถนน โดยการเลือกปลูกต้นกัลปพฤกษ์ขนาดความสูง 70-120 เชนติเมตร บริเวณสองข้างทางขึ้นหินสามวาฬ เป็นระยะ 1 กิโลเมตร เป็นจํานวน 25 ต้นสําหรับต้นกัลปพฤกษ์ที่เลือกนํามาปลูกในกิจกรรมครั้งนี้ เนื่องจากเป็นไม้ประจําถิ่นที่มีอยู่ในพื้นที่หินสามวาฬ เป็นพรรณไม้ยืนต้นพลัดใบขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงได้ประมาณ 5-15 เมตร เรือนแผ่กว้างแต่ไม่หนาทึบ แตกกิ่งต่ําและทอดกิ่งยาวขึ้นสู่ด้านบน ชอบความชื้นปานกลาง แต่ชอบแสงแดดเต็มทั้งวัน มีดอกที่สวยงาม เป็นช่อออกแน่นตลอดทั้งต้น เมื่อเริ่มบานดอกจะเป็นสีชมพู ถือว่าเป็นไม้สิริมงคล ตามความเชื่อแต่โบราณสําหรับหินสามวาฬ เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอําเภอเมืองบึงกาฬ ที่สามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เป็นหินขนาดใหญ่ แยกตัวเป็น 3 ก้อนเรียงต่อกัน ติดหน้าผาสูง มีอายุประมาณ 75 ล้านปี เมื่อมองดูจากระยะไกล หินสามก้อนนี้จะดูคล้ายกับฝูงวาฬ ที่มีทั้งพ่อ แม่ และลูกวาฬ ถือเป็น Unseen สําหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุดเลยทีเดียว โดยการขึ้นชมหินสามวาฬ นักท่องเที่ยวต้องใช้รถบริการนําเที่ยว ซึ่งจะจอดอยู่บริการที่ทําการ ตั้งแต่เวลา 05.30 - 17.00 น. ของทุกวัน โดยมีค่าบริการคันละ 500 บาท (ไป-กลับ) นั่งได้ถึง 10 คน และระหว่างทาง จะมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย อาทิ หินหัวช้าง กําแพงภูสิงห์ และหัวใจภูสิงห์ หรือประตูสวรรค์นั่นเอง
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
บึงกาฬ
สวท.บึงกาฬ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921192022486
247,381
จังหวัดตรัง ตรวจสอบการจำหน่ายกุ้งตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 รวม 80 ราย ปริมาณน้ำหนัก 217,379.44 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 72.45
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า คณะทํางานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดตรัง ประกอบด้วยผู้แทนพาณิชย์จังหวัด ผู้แทนประมงจังหวัด ผู้แทนสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําจังหวัดตรัง และผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายกุ้งของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ อําเภอปะเหลียน อําเภอกันตัง และอําเภอสิเกา จํานวน 6 ราย ปริมาณ 20,721.65 กิโลกรัม ทั้งนี้ จังหวัดตรังได้รับจัดสรรงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้ดําเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 ซึ่งจังหวัดตรังมีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเข้าร่วมโครงการจํานวน 115 ราย ผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง จํานวน 3 ราย ได้จําหน่ายกุ้งตามโครงการฯตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม – 20 กันยายน 2566 รวม 80 ราย ปริมาณน้ําหนัก 217,379.44 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 72.45 ทั้งนี้ จังหวัดตรังเบิกจ่ายค่าชดเชยราคากุ้งและค่าบริหารจัดการรวบรวมและกระจายกุ้ง ให้เกษตรกรแล้ว 65 ราย โดยมีปริมาณกุ้งที่ได้รับการสนับสนุนค่าชดเชยส่วนต่างราคาจํานวน 169,426.75 กิโลกรัม ในอัตรากิโลกรัมละ 20 บาท คิดเป็นเงิน 3,388,535.00 บาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการในส่วนของใช้จ่ายดําเนินการด้านการตลาดให้เกษตรกรและผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง ในอัตรากิโลกรัมละ 10 บาท เป็นจํานวนเงิน 1,694,267.50 บาท
21/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921185232462
247,382
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัดกิจกรรม “เชื่อมโยงการจำหน่ายไข่ไก่” เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กลุ่มกํากับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่จัดกิจกรรม “เชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่” เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค โดยจําหน่ายไข่ไก่ เบอร์ 2 (30 ฟอง/แผง) ราคาพิเศษแผงละ 115 บาท ระหว่างวันที่ 20-21 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป ณ บริเวณหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรังและบริเวณหน้าสํานักงานสหกรณ์จังหวัดตรัง อําเภอเมืองตรัง จังหวัดตรัง จุดละ 100 แผง/วัน จํากัดการซื้อ 1 แผง/คน อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่จังหวัดตรังมีปริมาณการผลิตไข่ไก่เพียงพอกับความต้องการและสามารถส่งขายในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้ ไม่ได้ประสบปัญหาหรือส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง ได้ลงพื้นที่ เพื่อติดตามสถานการณ์ ปริมาณและราคาสินค้าอุปโภคบริโภค กํากับดูแลผู้ประกอบการ/ร้านค้า ให้ปิดป้ายแสดงราคาจําหน่ายสินค้าอย่างชัดเจน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าโดยไม่มีเหตุอันควร ป้องกันการกักตุนและปฏิเสธการจําหน่ายสินค้า อย่างต่อเนื่อง หากผู้บริโภคไม่ได้รับเป็นธรรมทางการค้าหรือได้รับความเดือดร้อนจากการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าและบริการ สามารถร้องเรียนได้ที่ สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง โทร 0 7522 3076 หรือ สายด่วน 1569
21/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921185351463
247,383
จังหวัดตรัง จัดแถลงข่าว “มาแต่ตรัง...” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ ส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เมืองเก่าตรัง วันที่ 22 - 26 พฤศจิกายนนี้
วันนี้ (21 ก.ย. 66) ที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง อําเภอเมือง จังหวัดตรัง นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง พร้อมด้วยนางสาวเพ็ญศิริรัตน์ อาจทวีกุล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง นางสาวพันธิตรา สินพิบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญอาวุโส สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) และนายนิวรณ์ แสงวิสุทธิ์ รองนายกเทศมนตรีนครตรัง ร่วมกันแถลงข่าวงาน “มาแต่ตรัง...” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Creative tourism festival” โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมนายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้แก่เขตเมืองเก่าตรังต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาคเอกชน คนท้องถิ่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น YEC เพื่อร่วมกันกําหนดทิศทางการพัฒนา โดยโฟกัสที่จุดขายเมืองเก่าว่ามีจุดเด่นอย่างไร ด้วยพื้นที่ที่มีศักยภาพ เช่น มูลนิธิกุศลสถานตรัง คริสตจักรตรัง จึงต้องสนับสนุนพื้นที่ ออกแบบ นําเสนอเรื่องราวของเมืองเก่า ผสมผสานกับสิ่งที่เป็นไฮไลท์ เช่น กิจกรรม อาหารพื้นถิ่น ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นสารตั้งต้นในการจุดประกายและให้เทศบาลนครตรังรับช่วงต่อ เชื่อมั่นว่าจะทําให้จ.ตรัง ดังกว่าเดิมอย่างแน่นอนโดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง จัดแถลงข่าวงาน “มาแต่ตรัง..” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ Creative tourism festival เพื่อสร้างโอกาสและเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นย่านเมืองเก่าตรัง โดยการนําเสนอสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมของดีของจังหวัด ดึงกลุ่มคน ท้องถิ่น ผู้ประกอบการและชุมชน มาร่วมกันสร้างสรรค์ ทําให้เมืองเก่าตรังซึ่งนอกจากจะเป็นเมืองค้าขายที่ตอบสนองวิถีของคนในท้องถิ่นแล้ว ยังสามารถรองรับคนนอกพื้นที่เข้ามาท่องเที่ยวทางทะเลในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ให้มาเรียนรู้มิติวัฒนธรรมของเมืองเก่าได้ทั้งนี้ กิจกรรม “มาแต่ตรัง...” เทศกาลท่องเที่ยวสร้างสรรค์ กําหนดจัดขึ้น 22 - 26 พฤศจิกายน 2566 เวลา 10.00 – 21.00 น. ณ คลองห้วยยาง ย่านเมืองเก่าทับเที่ยง มีกิจกรรมที่หลากหลายตลอดทั้ง 5 วัน โดยกิจกรรมไฮไลท์ได้แก่ การจัดแสดงแสงสีและเปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้เข้ามาทํากิจกรรมในพื้นที่คริสตจักรตรัง มูลนิธิกุศลสถานตรัง และริมคลองห้วยยาง นิทรรศการภาพถ่ายโรงหนังและศิลปะจัดวาง ที่เพชรรามาและคลองห้วยยาง เปิดพื้นที่เรียนรู้ทดลองสร้างสรรค์ ณ ตรังชาตะ เปิดพื้นที่พักผ่อน ณ สวนหย่อมริมคลองห้วยยาง ชมตลาดอาหารงานสร้างสรรค์และผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ณ มูลนิธิกุศลสถานตรัง มีกิจกรรมสาธิตอาหารแนวใหม่ และกิจกรรมพาชมย่านเมืองเก่า
21/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921185949469
247,384
ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงพื้นที่จังหวัดตรัง ตรวจติดตามผลการดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแลและส่งเสริมการประกอบกิจการเหมืองแร่ ตามแนวทางอุตสาหกรรมวิถีใหม่ “เหมืองแร่ดี คู่ชุมชน”
นายทาวัน ทวีถาวรสวัสดิ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม ตรวจติดตามผลการดําเนินงานโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการกํากับ ดูแลและส่งเสริมการประกอบการเหมืองแร่ตามแนวอุตสาหกรรมวิถีใหม่ “เหมืองแร่ดีคู่ชุมชน” โดยมี นางพรทิพา อัครสุต อุตสาหกรรมจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและนําเสนอผลการดําเนินโครงการฯ โดย ผู้ตรวจราชการฯ ได้เน้นย้ําการใช้ “หัวและใจ” ในการทํางานไม่เลือกปฏิบัติ ตั้งใจทํางานอุทิศตนให้ราชการ ทํางานเป็นทีม รักใคร่ปรองดองกัน และผลักดันนโยบาย MIND ถ่ายทอดให้สถานประกอบการในพื้นที่นําไปปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมทั้ง กําชับให้มีการดูแลสิ่งแวดล้อมทั้ง 4 ด้าน ตามกิจกรรมอุตสาหกรรมรวมใจ (ดิน น้ํา ลม ไฟ) รวมถึงติดตามโรงงานอุตสาหกรรมที่ยังไม่รายงานข้อมูลเข้าระบบแจ้งข้อมูลการประกอบกิจการโรงงาน (iSingleForm) ให้ครบถ้วน นอกจากนี้ ต้องส่งเสริมให้สถานประกอบการยกระดับการรับรองอุตสาหกรรมสีเขียว (Green Industry) ให้สูงขึ้นจากระดับ 1 เป็นระดับ 2 ระดับ 2 เป็นระดับ 3 และจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ตรวจตรวจราชการฯ พร้อมคณะฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม บริษัท ตรัง ยูซี จํากัด ประกอบธุรกิจ ทําเหมืองชนิดแร่ โดโลไมต์ โม่ บด และย่อยหิน ตั้งอยู่ตําบลโคกสะบ้าและตําบลทุ่งค่าย อําเภอนาโยงและอําเภอย่านตาขาว จังหวัดตรัง เป็นสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลโครงการส่งเสริมอุตสาหกรรมเหมืองแร่ให้มีมาตรฐานสากลเพื่อความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR-DPIM) ซึ่งเป็นสถานประกอบการที่เป็นตัวอย่างการดําเนินกิจการครอบคลุมทั้ง 4 มิติ โดยจังหวัดตรังมีนโยบายส่งเสริมให้ภาคธุรกิจมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้ทุกภาคส่วนของสังคมได้เข้ามามีบทบาท หรือมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมเพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมภาคส่วนอื่น ๆ ทั้งหน่วยงานของภาครัฐ องค์การภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์การภาคประชาชน บริษัทฯ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมของภาคธุรกิจจังหวัด (CSR) มีบทบาทในการรวบรวมข้อมูลและเชื่อมประสานการดําเนินงานด้านการส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมขององค์กรภาคธุรกิจ เพื่อร่วมกันช่วยเหลือผู้เดือดร้อนในพื้นที่จังหวัด และร่วมมือแก้ไขปัญหาด้านสังคมของจังหวัดแบบบูรณาการทั้งภาครัฐ ภาคธุรกิจและภาคประชาชนในนามของ CSR จังหวัดตรัง
21/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921191401477
247,385
อำเภอท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี น้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการและพัฒนาหมู่บ้าน พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างงาน สร้างรายได้
วันนี้ (21 กันยายน 2566) นายสุกิจ มีพริ้ง นายอําเภอท่าฉาง พร้อมด้วย ปลัดอําเภอ หัวหน้าส่วนราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ สมาชิกอาสารักษาดินแดน (อส.) รับประทานอาหารร่วมกัน บริเวณศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริอําเภอท่าฉาง ตั้งอยู่ภายในบริเวณที่ว่าการอําเภอท่าฉางโดยนําพืช ผัก ที่ปลูก ปลาที่เลี้ยง มาประกอบอาหาร ซึ่งบริเวณศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดําริอําเภอท่าฉาง มีการปลูกผักสวนครัว ไม้ผลต่าง ๆ หมาก พลู บ่อเลี้ยงปลา บ่อเลี้ยงแหนแดง โรงเรือนเลี้ยงไก่ไข่ ไว้สําหรับเป็นแหล่งเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างความมั่นคงด้านอาหาร สร้างรายได้ ประหยัดรายจ่าย พัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรให้มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน สืบสานพระราชปณิธาน และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และขับเคลื่อนกิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ผู้นําทําก่อน และขยายผลไปยังบ้านเรือนของประชาชน เพื่อจะได้มีอาหารที่ปลอดภัยไว้รับประทาน นับเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างดี และจะได้ขยายผลไปยังหมู่บ้านเป้าหมายตามโครงการหนึ่งตําบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนโครงการหนึ่งตําบล หนึ่งหมู่บ้านยั่งยืน (Sustainable Village) และขยายผลไปจนครบทุกหมู่บ้านต่อไป.
21/9/2023
ภาคใต้
สุราษฎร์ธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุราษฎร์ธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921204134506
247,386
ร้อยเอ็ด ร่วมงาน “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม”
วันที่ 21 กันยายน 2566 เวลา 13.30 น. นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน “มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม” โดยมี นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นางสาวเพ็ญพิสุทธิ์ จินตโสภณ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม คณะทํางานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม วัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัด ผู้แทนนายกเหล่ากาชาดจังหวัด ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด เครือข่ายวัฒนธรรม และประชาชนผู้สนใจ เข้าร่วมงานฯ ณ อาคารอเนกประสงค์ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม กรุงเทพมหานครฯโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้มอบโล่รางวัล 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนายกระดับอาหารถิ่น สู่มรดกทางวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ความเป็นไทย(Thailand Best Local Food) “รสชาติ...ที่หายไป The Lost Taste” ให้กับทั้ง 76 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ซึ่งจังหวัดร้อยเอ็ด โดยสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด สํานักงานเหล่ากาชาดจังหวัด และสภาวัฒนธรรมจังหวัดร้อยเอ็ด เข้าร่วมพิธีเปิดงาน และขึ้นรับมอบโล่รางวัล 1 จังหวัด 1 เมนู เชิดชูอาหารถิ่น อีกด้วย
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ร้อยเอ็ด
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดร้อยเอ็ด
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921215146514
247,387
จังหวัดเลย เปิดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much “มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย” ขับเคลื่อน BCG Model แบบบูรณาการ
วันที่ 21 กันยายน 2566 เวลา 18.30 น. ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย อําเภอเมืองเลย นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ประธานเปิดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much ตอน : มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย” พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย/แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย นายณรงค์ จีนอ่ํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายธเนศ หาญถนอม ประธานหอการค้าจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเลย หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานนายทวี เสริมภักดีกุล กล่าวว่า จังหวัดเลยได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและทุนชุมชน ขับเคลื่อน BCG Model แบบบูรณาการในพื้นที่ หนุนพืชเกษตรศักยภาพเด่น ยกระดับ สู่มาตรฐานสูง เร่งขับเคลื่อนภาคเกษตรของจังหวัดเลยด้วย BCG Model แบบบูรณาการเชิงพื้นที่ โดยได้วิเคราะห์ชนิดผลผลิตทางการเกษตร เพื่อส่งเสริมพืชเกษตรตามศักยภาพเด่นของแต่ละพื้นที่ ได้แก่ กาแฟ มันสําปะหลัง มะคาเดเมีย ข้าว ไผ่เลี้ยง และพืชสมุนไพร พร้อมกับจัดทํา BCG Value Chain (เวลู เชน) ดําเนินการตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา โดยมุ่งเป้าหมายปรับเปลี่ยนด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรนําวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาช่วยด้านการผลิตให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ตามแนวทางการขับเคลื่อนภาคเกษตรด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG และขอชื่นชมหอการค้าจังหวัดเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย คณะกรรมการจัดงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ร่วมแรงร่วมใจกัน จัดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much ตอน : มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย” ขึ้น เพราะจะเป็นช่องทางการส่งเสริมอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้กับประชาชนในระดับชุมชนของแต่ละท้องถิ่น เสริมสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่จังหวัดเลย ก่อให้เกิดความรักสมัครสมานสามัคคี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาและดูแลความทุกข์สุขของพี่น้องประชาชนนายธเนศ หาญถนอม ประธานหอการค้าจังหวัดเลย กล่าวว่า หอการค้าจังหวัดเลย จึงได้ร่วมบูรณาการร่วมกับ จังหวัดเลย ศูนย์วิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โรงเรียน ชุมชน ภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน ได้นําผู้ประกอบการด้านอาหาร เครื่องแต่งกาย สินค้าแปรรูปด้านการเกษตร เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัด หรือของท้องถิ่น ส่วนรวมได้ จะช่วยสร้างความเป็นปึกแผ่น และส่งเสริมเศรษฐกิจ รวมทั้งมีส่วนช่วยในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้แก่จังหวัด ช่วยเป็นศูนย์ประสานความสมัครสมานสามัคคี ของนักธุรกิจพ่อค้าและบุคคลต่าง ๆ ในจังหวัดหรือท้องถิ่น อีกทั้ง ภายในงานมีการแสดงนิทรรศการและจําหน่ายสินค้า ภายใต้แนวคิด ส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ ออกสู่สายตามหาชน ผลิตภัณฑ์ จากต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา ของหน่อไม้ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย และฝ้ายเมืองเลย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย วิทยาเขตศรีล้านช้าง การจําหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากชุมชนและผู้ประกอบการ กลุ่มสมัชชาสุขภาพจังหวัดเลย LSF จํานวนกว่า 60 บูธ กิจกรรมการแสดงจากเยาวชน การประกวดคอสเพล การแสดงมหาวิทยาลัยราชภัฏเลย, การแสดง มทบ.28, โรงเรียนเลยพิทยาคม, การแสดงจากชุมชนบ้านแฮ่,ชมรมลีลาศ, ศรีสะอาดสัมพันธ์, โรงเรียนผู้สูงอายุจากองค์การบริหารส่วนตําบลเมือง กิจกรรมสินค้านาทีทอง ในช่วงเวลา 12.00-13.00 น.และเวลา 16.00-17.00 น. มีการจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 3 จากราคาปกติ 135 บาท เหลือเพียง 125 บาท จํานวน 200 แผง และน้ําตาลทรายขาว จากราคาปกติ 25 บาท เหลือเพียง 15 บาท จํานวน 250 กิโลกรัม พร้อมด้วยสินค้าเครื่องใช้ในบ้านราคาต่ํากว่าทุนจากบิ๊กโฮม เริ่มต้นที่ 1 บาท ซึ่งสามารถเลือกชมเลือกซื้อได้ที่งานหอการค้าแฟร์ 2023 ตั้งแต่วันที่ 20 - 30 กันยายน 2566 ณ ศาลากลางจังหวัดเลย
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สวท.เลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921232828525
247,388
จังหวัดเลย เปิดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much “มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย”
วันที่ 21 กันยายน 2566 เวลา 18.30 น. ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดเลย อําเภอเมืองเลย นายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ประธานเปิดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much ตอน : มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย” พร้อมด้วย นางวราภรณ์ เสริมภักดีกุล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดเลย/แม่บ้านมหาดไทยจังหวัดเลย นายณรงค์ จีนอ่ํา รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายศิริวัฒน์ พินิจพานิชย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเลย นายธเนศ หาญถนอม ประธานหอการค้าจังหวัดเลย หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดเลย หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภาคเอชน ประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานนายทวี เสริมภักดีกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า อาชีพการปลูกไผ่พันธุ์ทวายหรือการปลูกไผ่สะดิ้ง เป็นพืชที่ปลูกและดูแลรักษาง่าย ตลาดมีความต้องการมาก สามารถขายได้ทั้งในรูปหน่อสดและนํามาแปรรูป เช่น หน่อไม้ดองทั้งหน่อ หรือดองในรูปหน่อไม้สับ ซึ่งจังหวัดเลยได้ส่งเสริมให้อําเภอท่าลี่ให้ปลูกไผ่ ซึ่งสามารถเป็นพืชเศรษฐกิจท้องถิ่น เกิดอาชีพตั้งแต่ หน่อไผ่ ลําไผ่ รวมถึงการแปรรูป ไม่ว่าจะเป็น เฟอร์นิเจอร์ ชั้นวางผลิตภัณฑ์ กระเป๋า ที่นึ่งข้าว ฯลฯ ให้บรรลุเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนมีความสุขอยู่ดีกินดี สังคมมีความมั่นคงเสมอภาคและเป็นธรรมก่อให้เกิดความ“มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” โดยมุ่งเป้าหมายปรับเปลี่ยนด้วยการส่งเสริมให้เกษตรกรนําวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาช่วยด้านการผลิตให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเน้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นายธเนศ หาญถนอม ประธานหอการค้าจังหวัดเลย กล่าวว่า จังหวัดเลยร่วมกับหอการค้าและภาคีเครือข่าย กําหนดจัดงานหอการค้าแฟร์ 2023 “เทศกาลแห่งความสุข สนุกแบบ Very Much ตอน : มหัศจรรย์หน่อไม้ไทเลย” ระหว่างวันที่ 20-30 กันยายน 2566 วัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของจังหวัด หรือของท้องถิ่น รวมทั้งมีส่วนช่วยในการพัฒนาความเจริญก้าวหน้าให้แก่จังหวัด เป็นศูนย์ประสานความสมัครสมานสามัคคี ของนักธุรกิจพ่อค้าและบุคคลต่าง ๆ ในจังหวัด หรือท้องถิ่น อีกทั้ง ยังส่งเสริมผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ออกสู่สายตามหาชน พร้อมกับจัดทํา BCG Value Chain (เวลู เชน) ดําเนินการตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา ภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมการแสดงจากเยาวชน การประกวดคอสเพล การจําหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าเครื่องใช้ในบ้านราคาต่ํากว่าทุนจากบิ๊กโฮม เริ่มต้นที่ 1 บาท สินค้าแปรรูปด้านการเกษตร อาหาร เครื่องแต่งกาย และผลิตภัณฑ์จากชุมชนและผู้ประกอบการ กลุ่มสมัชชาสุขภาพจังหวัดเลย LSF จํานวนกว่า 60 บูธ
21/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
เลย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเลย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230921235357528
247,389
จังหวัดภูเก็ต ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการ นิตยสาร Travel & Leisure ให้ได้รับรางวัล Best Parent- Child Destination Award ซึ่งเป็นสุดยอดรางวัลแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว
วันที่ 21 กันยายน 2566 นิตยสาร Travel & Leisure ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดงานประกาศรางวัล 2023 World Leisure Awards ขึ้น ณ Bibo island, Jinhai Lake, Pinggu district กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 20 โดยได้มีการคัดสรรแหล่งท่องเที่ยวที่ดีเด่นจากทั่วโลก เพื่อประกาศรางวัลสุดยอดแหล่งท่องเที่ยว ในแต่ละประเภท ซึ่งทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานปักกิ่ง ได้นําเสนอแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย เข้าร่วมการพิจารณาด้วยนั้นในครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการ ให้ได้รับรางวัล Best Parent- Child Destination Award ซึ่งเป็นสุดยอดรางวัลแหล่งท่องเที่ยวสําหรับครอบครัว การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ําว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย และ มีความสวยงาม เหมาะสําหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว โดยรางวัลดังกล่าว จะเป็นการสร้างความมั่นใจ และตอกย้ําภาพลักษณ์ในด้านความปลอดภัย และความสวยงาม แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวชาวจีน ให้ตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ ประเทศไทย เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน
21/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922055101534
247,390
ผู้บริหารบริษัท Microsoft ชื่นชมจุดแข็งของไทยสามารถเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค และมีศักยภาพ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ใช้โอกาสในการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 78 ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา พบกับผู้บริหารบริษัท Microsoft นายกรัฐมนตรีขอบคุณ Microsoft ที่มีความร่วมมือและมีการลงทุนในไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมจะร่วมมือต่อไปให้มีความต่อเนื่องและเกิดผลรูปธรรมในอนาคตอันใกล้โดย Microsoft ชื่นชมไทยที่มีจุดแข็ง สามารถเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาค มีศักยภาพที่จะเป็น Data center ของภูมิภาค บริษัทฯต้องการสนับสนุนให้ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐในการใช้ cloud ซึ่งการมีการลงทุนใน cloud ในไทย จะช่วยส่งเสริมความสามารถของคนไทย จะช่วยพัฒนาศักยภาพของทรัพยากรบุคคล ที่ใช้ระบบงานต่างๆ เพื่อส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันของไทย
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922135814654
247,391
นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ยืนยันภารกิจหลักเปิดประเทศ สนับสนุนธุรกิจ เศรษฐกิจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประชุมเพื่อมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยในสหรัฐอเมริกา ณ โรงแรม St. Regis นิวยอร์ก โดยนายกรัฐมนตรี เล่าถึงนโยบายปรัชญาการทํางานของรัฐบาลนี้ ต้องการเห็นประเทศเดินไปข้างหน้าได้ด้วยการปฎิบัติตามหลักนิติธรรม ซึ่ง 7-8 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติมีความเห็นต่างในสังคม ภารกิจหลักของรัฐบาลจึงต้องการเปิดประเทศ สนับสนุนการทําธุรกิจ รวมทั้งรักษาจิตใจของคนในทุกภาคส่วน ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองต่างกัน เยียวยาจิตใจให้อยู่ร่วมกันภายใต้กรอบ ของกฎหมายได้อย่างสันติ ส่วนการพัฒนาทางเศรษฐกิจของไทยต่ํากว่าเพื่อนบ้าน ถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ไข รวมทั้งปัญหาสังคม ยาเสพติด รัฐบาลจึงตั้งใจแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด โดยได้ออกเป็นมาตรการภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ลดราคาน้ํามัน ลดราคาค่าไฟฟ้า อะไรที่พอจะช่วยเหลือได้รัฐบาลดําเนินการทันที รวมถึงการพักหนี้เกษตรกรเพื่อให้ประชาชนมีแรงทํามาหากิน มีกําลังใจ ไม่ต้องแก้ไขปัญหาหนี้สิน ระหว่างที่ตั้งใจทํางานนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า การเปิดตลาดก็เป็นเรื่องสําคัญ รัฐบาลนี้มีต้นทุนสูงต้องการตลาดที่มีศักยภาพใหม่ๆ จึงเป็นเรื่องสําคัญมาก เช่นเดียวกับการเจรจาจัดทํา FTA ขอให้ทุกคนทํางานเชิงรุก ทั้งทวิภาคีและพหุภาคี สรุปการทํางานเพื่อยกระดับ GDP ต้องยกระดับการลงทุนจะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้ากระทรวงการต่างประเทศไม่ช่วยเหลือ นโยบายหลักของรัฐบาลที่สําคัญอีกอย่าง คือการสนับสนุนการพัฒนา Soft power ซึ่งมีหลายกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ขอให้ทุกคนเดินหน้าช่วยพัฒนา Soft powerเผยแพร่ในนานาประเทศ นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคน
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922140118655
247,392
รมว.อุตสาหกรรม เร่งดำเนินการ “ฮาลาลฮับ” ในพื้นที่ เจาะตลาดตะวันออกกลาง พร้อมสั่ง สศอ. ชี้เป้าศักยภาพพื้นที่สร้างเศรษฐกิจนำอุตสาหกรรม
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งชี้เป้าอุตสาหกรรมเป้าหมาย ไปสู่พื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจ 4 ภาค เพื่อเป็นแนวทางสําหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ ทั้งยังมีส่วนช่วยกระตุ้นการลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น โดยในส่วนของพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ทั้งยังมีอาณาเขตติดกับประเทศมาเลเซีย สามารถส่งเสริมให้เป็นศูนย์กลางอาหารฮาลาลในภูมิภาค หรือ ฮาลาลฮับ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ และสามารถส่งออกไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลางที่มีศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจําชาติ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ําให้ สศอ. ส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ใช้พลังงานสะอาด การหาแนวทางเพื่อการส่งเสริม Soft Power ไทยในภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการให้ความสําคัญกับการยกระดับการบริการผู้ประกอบการและประชาชนผู้อย่างเต็มที่ อํานวยความสะดวกในทุกขั้นตอนการดําเนินงาน ปรับภาพลักษณ์ใหม่ ให้มีรอยยิ้มจากการใช้บริการ
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922102641569
247,393
กระทรวงพาณิชย์ เปิดจุดจำหน่ายไข่ไก่ราคาประหยัด ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน
นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการขายไข่ไก่ ณ จุดจําหน่ายหน้าเทศบางเมืองพิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ได้เชื่อมโยงไข่ไก่โดยตรงจากเกษตรกร จ.นครปฐม ในราคาไข่ไก่เบอร์ 3 หน้าฟาร์ม และจําหน่ายให้ผู้บริโภค ในราคาถาดละ 105 บาท หรือฟองละ 3.5 บาท และดําเนินกิจกรรมเชื่อมโยงจําหน่ายไข่ไก่ มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.66 รวม 3 จุด ได้แก่ บริเวณศาลากลางจังหวัดนนทบุรี หน้าเทศบาลตําบลบางพลับ อ.ปากเกร็ด และ หน้าเทศบางเมืองพิมลราช อ.บางบัวทอง พบว่า ทุกจุดจําหน่ายมีประชาชนให้ความสนใจจํานวนมาก โดยจําหน่ายไข่ไก่ กว่า 500 ถาด และจะจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ในชุมชนอื่น ๆ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน ทั้งนี้ จากการติดตามสถานการณ์ราคาไข่ไก่รายวันในหลายจังหวัด พบว่า ราคาไข่ไก่ปรับตัวลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน ราคาไข่ไก่เบอร์ 3 เฉลี่ยทั่วประเทศ ฟองละ 4.29 บาท ในบางจังหวัดราคาเพียงฟองละ 3.5 บาท ขึ้นอยู่กับจํานวนฟาร์มและปริมาณไข่ไก่ในจังหวัด สําหรับภาพรวม ไข่ไก่มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการบริโภค และยังมีแนวโน้มปรับลดลง เนื่องจากเข้าใกล้เทศกาลกินเจในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922104107587
247,394
จ.พิจิตร วางแผนขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ปี 2567 มุ่งส่งเสริมด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน
วันนี้ (22 ก.ย.66) นายบุญเหลือ บารมี รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เป็นประธานการประชุมคณะทํางานสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสานพลังประชารัฐ ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ (E3) ตามโครงการพัฒนากลไกขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากระดับจังหวัด ณ ห้องประชุม สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพิจิตร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร ทั้งนี้ ในที่ประชุมมีการพิจารณาการวางแผนขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ ในปี 2567 โดยมุ่งส่งเสริมด้านการเกษตร การแปรรูป และการท่องเที่ยวโดยชุมชน ด้านนายศุภชัย สุพรรณทอง พัฒนาจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า มติที่ประชุมมีการหารือวางแผนเตรียมสนับสนุนการเกษตรและแปรรูปส้มโอ และเม็ดบัว ในกระบวนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ํา กลางน้ํา และปลายน้ํา ขณะที่ด้านการท่องเที่ยว เตรียมส่งเสริมการท่องเที่ยวสวนส้มโอ อ.โพธิ์ประทับช้าง พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวทุ่งดอกกระเจียว (ยักษ์) บ้านเขาโล้น อ.ทับคล้อ อย่างต่อเนื่อง โดยดึงจุดเด่นในพื้นที่นําเสนอเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
22/9/2023
ภาคเหนือ
พิจิตร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพิจิตร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922121140610
247,395
กระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวกลุ่ม VISA Free ทุกสนามบินมีความพร้อมรองรับผู้โดยสาร
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อรองรับผู้โดยสารชาวจีนและคาซัคสถาน ตามนโยบาย VISA Free ของรัฐบาล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านนโยบาย VISA Free ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 คาดว่าช่วงเวลาดังกล่าว จะมีเที่ยวบินจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากเดิม เฉลี่ย 72 เที่ยวบินต่อวัน เป็น 96 เที่ยวบินต่อวัน และปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย จากเดิม 9,680 คนต่อวัน เป็น 18,656 คนต่อวัน โดยในปี 2566 คาดว่าจะมีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ทั้งนี้ได้สั่งการให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในด้านต่าง ๆ รวมถึงหาแนวทางการดําเนินการเพื่ออํานวยความสะดวกรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต และให้ประสานงานกับตํารวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้กระบวนการทุกขั้นตอนมีความสะดวกรวดเร็ว ไม่ให้ผู้โดยสารเกิดความแออัด รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการร่วม (Single Command Center) เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานร่วมของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการในทุกขั้นตอนในท่าอากาศยาน ซึ่งรวมถึงการเตรียมความพร้อมท่าอากาศยานในภูมิภาค การเตรียมความพร้อมการเดินทางภายในกรุงเทพมหานคร การเดินทางไปต่างจังหวัดทั้งทางรถไฟและรถโดยสาร และความพร้อมสําหรับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางน้ําด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ทอท. ได้บริหารจัดการท่าอากาศยานให้มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานทั้งขาเข้าได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เตรียมประจําการเต็มช่องตรวจหนังสือเดินทาง ทั้ง 138 ช่อง ในชั่วโมงหนาแน่น และเตรียมเครื่องตรวจอัตโนมัติ 16 เครื่อง สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7,140 คนต่อชั่วโมง ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจลงตรา 1 นาทีต่อคน ขั้นตอนรับกระเป๋าสัมภาระ กําชับให้ผู้ให้บริการภาคพื้นและสายการบิน จัดเตรียมอัตรากําลังและอุปกรณ์ให้เต็มขีดความสามารถและสอดคล้องกับเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น ส่วนผู้โดยสารขาออก ประสานสายการบินจัดให้มีพนักงานให้บริการเช็กอินเต็มทั้ง 302 เคาน์เตอร์ และประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้ผู้โดยสารใช้บริการเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) และใช้บริการเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) ซึ่งใช้เวลาเฉลี่ย 1 นาทีต่อคน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเติมการทํา Early Check-in ขั้นตอนจุดตรวจค้น ซึ่งจะทําให้ระยะเวลาในการตรวจค้นไม่เกิน 7 นาทีต่อคน ส่วนขั้นตอนการตรวจลงตรา ประสานเจ้าหน้าที่ ตม. ให้นั่งเต็ม 69 ช่องตรวจ ในช่วงเวลาเร่งด่วน และเตรียมเครื่อง Auto Channel 16 เครื่อง มีพื้นที่รองรับผู้โดยสาร 2,199 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4,149 คน ในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. จะได้ดําเนินการในลักษณะเดียวกัน
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922134518641
247,396
จังหวัดกาญจนบุรี จัดงาน Kan Craffee 2023 Coffee Variety "เทศกาลกาแฟกาญจนบุรี" เพื่อต่อยอดส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
ที่ The Zeit River Kwai Resort อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานเปิดงาน KAN Craffee 2023 Coffee Variety "เทศกาลกาแฟกาญจนบุรี" เพื่อต่อยอดการส่งเสริมการท่องเที่ยวทุกรูปแบบ โดยมี ดร.กิรดา ลําโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ผู้ประกอบการ สื่อมวลชน เข้าร่วมงาน จังหวัดกาญจนบุรี จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว KAN Craffee 2023 Coffee Variety "เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี " เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ชูจุดขาย Soft Power ด้านอาหาร โดยใช้เมล็ดกาแฟและวัตถุดิบท้องถิ่น ผสมผสานเทคนิคการชงกาแฟจากบาริสต้าที่มีชื่อเสียงและนวัตกรรม ที่หลากหลายเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ด้านกาแฟ เรียนรู้เกี่ยวกับการชงกาแฟ ในรูปแบบต่างๆ และเพลิดเพลินไปกับการลิ้มรสกาแฟจากเมล็ดกาแฟท้องถิ่นและเมล็ดกาแฟ จากต่างประเทศ เช่น กาแฟสาละวะ-ไล่โว่ ซึ่งเกิดจากการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้แก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนกาแฟจากกลุ่มวิสาหกิจชุนชนกาแฟอําเภอทองผาภูมิ ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวานติดโคนลิ้น ถือเป็นการเผยแพร่ผลิตภัณฑ์กาแฟของจังหวัดกาญจนบุรีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ยกระดับเศรษฐกิจชุมชน ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในจังหวัดทุกรูปแบบอย่างยั่งยืน
22/9/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สวท.กาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922144845681
247,397
กรมการท่องเที่ยว สร้างความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ขยายพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
นายจาตุรนต์ ภักดีวานิช อธิบดีกรมการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรมการท่องเที่ยวได้พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัยสําหรับนักท่องเที่ยว (Safety Zone) ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 เพื่อแก้ไขและช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งในส่วนของผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว และนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นในเรื่องของการท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ การดูแลความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ โดยได้พัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวปลอดภัย 5 แห่ง ได้แก่ ท่องเที่ยวปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในพื้นที่อําเภอวังน้ําเขียว จังหวัดนครราชสีมา เตรียมความพร้อมความปลอดภัยสําหรับพื้นที่การจัดอีเว้นท์ระดับสากล ในพื้นที่เขตเมือง จังหวัดอุดรธานี ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในสภาวะฉุกเฉิน ในพื้นที่ท่องเที่ยวทางทะเล จังหวัดตรัง /การท่องเที่ยวแห่งศรัทธา บนพื้นฐานความปลอดภัย ในเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยบ้านเกิดหลวงปู่ทวด จังหวัดสงขลา และ ท่องเที่ยวสุขใจ พร้อมปลอดภัย วิถีไทย วิถีชุมชน ในพื้นที่ตลาดน้ําดําเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่ เป็นการบูรณาการการทํางานร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ผู้ประกอบการ และชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและการมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน ผ่านกระบวนการประชุมหารือแนวทางการพัฒนาพื้นที่ การจัดทําหลักเกณฑ์ความปลอดภัย การจัดอบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากรด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ทั้งนี้ กรมการท่องเที่ยวยังมีแผนดําเนินการขยายพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวในพื้นที่ท่องเที่ยวของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวของไทยให้เพิ่มมากขึ้น ทําให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวและการใช้จ่ายในพื้นที่เพิ่มขึ้น เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก เพิ่มการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง และลดความเหลื่อมล้ําภายในประเทศ
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922134221638
247,398
จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี จัดงาน “Kan Craffee 2023 Coffee Variety” ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี”
วันนี้ (22 กันยายน 2566) เวลา 10.00 น. ณ โรงแรม The Zeit River Kwai Resort อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “Kan Craffee 2023 Coffee Variety” ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี” โดยมี นางสาวกิรดา ลําโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี ชมรมท่องเที่ยวศรีสวัสดิ์ สมาพันธ์ SME ไทยจังหวัดกาญจนบุรี และร้านกาแฟในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมกิจกรรมฯจังหวัดกาญจนบุรี โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี” โดยใช้ชื่องานว่า “KAN Craffee 2023 Coffee Variety” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร วัตถุดิบท้องถิ่นรูปแบบใหม่ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งฟื้นฟูการตลาดท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ควบคู่ไปกับการต่อยอด การดําเนินงานจากโครงการอบรมเชฟชุมชน และการอบรมบาริสต้า ที่จังหวัดได้ดําเนินการไปเมื่อปี 2564 ในการยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟในจังหวัดให้มีมาตรฐานทั้งร้านกาแฟ โรงคั่วกาแฟ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ให้เตรียม ความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ อย่างมีคุณภาพโดยจัดกิจกรรม จํานวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 22 – 24 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ โรงแรม The Zeit River Kwai Resort อําเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดสารกาแฟโรบัสต้า การแข่งขันดริปกาแฟกิจกรรม Workshop สาธิตการชงกาแฟ การออกร้านจําหน่ายสินค้ากาแฟ และร้านเบเกอร์รี่ รวมทั้งกิจกรรมเสวนาเรื่อง กาแฟรักษ์ป่า กาแฟแห่งความหวังและอนาคต
22/9/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922154410721
247,399
จังหวัดกาญจนบุรี โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี จัดงาน “Kan Craffee 2023 Coffee Variety” ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี”
วันนี้ (22 กันยายน 2566) เวลา 10.00 น. ที่โรงแรม The Zeit River Kwai Resort อําเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี นายรณภพ เวียงสิมมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดงาน "Kan Craffee 2023 Coffee Variety" ในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว "เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี" โดยมี นางสาวกิรดา ลําโครัตน์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดงานฯ พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรี สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวกาญจนบุรี ชมรมท่องเที่ยวศรีสวัสดิ์ สมาพันธ์ SME ไทยจังหวัดกาญจนบุรี และร้านกาแฟในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วมกิจกรรมฯ จังหวัดกาญจนบุรี โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกาญจนบุรี จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว "เทศกาลกาแฟ กาญจนบุรี" โดยใช้ชื่องานว่า "KAN Craffee 2023 Coffee Variety" มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร วัตถุดิบท้องถิ่นรูปแบบใหม่ และพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งฟื้นฟูการตลาดท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ควบคู่ไปกับการต่อยอด การดําเนินงานจากโครงการอบรมเชฟชุมชน และการอบรมบาริสต้า ที่จังหวัดได้ดําเนินการไปเมื่อปี 2564 ในการยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟในจังหวัดให้มีมาตรฐานทั้งร้านกาแฟ โรงคั่วกาแฟ เกษตรกรผู้ปลูกกาแฟ ให้เตรียมความพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว และผู้ที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟ อย่างมีคุณภาพ โดยจัดกิจกรรม จํานวน 3 วัน ระหว่างวันที่ 22 - 24 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ โรงแรม The Zeit River Kwai Resort อําเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี กิจกรรมภายในงาน ประกอบด้วย การประกวดสารกาแฟโรบัสต้า การแข่งขันดริปกาแฟกิจกรรม Workshop สาธิตการชงกาแฟ การออกร้านจําหน่ายสินค้ากาแฟ และร้านเบเกอร์รี่ รวมทั้งกิจกรรมเสวนาเรื่อง กาแฟรักษ์ป่า กาแฟแห่งความหวังและอนาคต
22/9/2023
ภาคตะวันตก
กาญจนบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922153620714
247,400
จังหวัดเพชรบุรี ผลักดันเต็มที่ ยกระดับ ชะอำ – อินเตอร์ ขยายตลาดการท่องเที่ยว ที่พร้อมดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ กลุ่มยุโรปและสแกนดิเนเวีย
เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (22 กันยายน 2566) นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน ร่วมการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพชรบุรี – ชะอํา ณ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เปิดเผยว่า จังหวัดเพชรบุรีระดมผู้เกี่ยวข้องด้านการท่องเที่ยว ร่วมหารือที่จะทําให้เมืองชะอํา เป็นชะอําอินเตอร์ เพื่อขยายตลาดการท่องเที่ยว ที่ แม้ปัจจุบันจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพัก แบบระยะยาวในโรงแรมต่างๆ ของเมืองชะอําอยู่แล้วก็ตาม ชะอํา อินเตอร์ ที่มุ่งเน้นนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมดึงนักท่องเที่ยวต่างประเทศ กลุ่มยุโรปและสแกนดิเนเวียและไม่ทิ้งนักท่องเที่ยวไทย ชะอํา – อินเตอร์ คือไทย และต่างชาติ เร่งทําการตลาด ให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพชรบุรีมากขึ้น นอกจากนั้นคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพชรบุรี – ชะอํา ได้ให้ความสําคัญ ที่ต้องดูตลาดโลกด้วย ว่าความนิยมหรือเทรนด์การท่องเที่ยวจะเน้นรูปแบบไหน นอกจากนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากขึ้น มาพักมากขึ้น และต้องการอยู่นานขึ้น การใช้จ่ายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างรายได้ให้กับชุมชนและคนในพื้นที่ โดยที่ประชุมได้นําเสนอกิจกรรมท่องเที่ยวทั้งเน้นด้านอาหารทะเล อาหารพื้นบ้านในโรงแรม กิจกรรมการท่องเที่ยวอัตลักษณ์พื้นถิ่น เช่น โยคะชายหาด รวมทั้งผลิตภัณฑ์สินค้าพื้นเมืองของดี ของเด่น และความเป็นเมืองสร้างสรรค์ของ ยูเนสโก และความเป็นเมืองมรดกโลก จามรี อนุรัตน์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี รายงาน
22/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922152213700
247,401
จังหวัดเพชรบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรี-ชะอำ สู่ความเป็นสากล
วันนี้ (22 ก.ย.66) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดเพชรบุรี อําเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี นางวันเพ็ญ มังศรี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรี-ชะอํา สู่ความเป็นสากล โดยที่ประชุมได้รายงานการประชุมคณะกรรมการด้านความต้องการสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว และรับรองรายงานการประชุมคณะกรรมการด้านการยกระดับการจัดกิจกรรมและความบันเทิงเพชรบุรี-ชะอํา สู่ความเป็นสากล และแจ้งผลการดําเนินงานของคณะกรรมการด้านความต้องการสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว ด้านการเตรียมความพร้อมของภาคผู้ประกอบการสินค้าและด้านการท่องเที่ยว ด้านยกระดับกิจกรรมและความบันเทิง นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาการขับเคลื่อนการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพชรบุรี-ชะอํา สู่ความเป็นสากล ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความรู้ ความเข้าใจให้ผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้อง ร่วมกันรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สร้างความเชื่อมั่นในชีวิตและทรัพย์สิน
22/9/2023
ภาคตะวันตก
เพชรบุรี
สวท.เพชรบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922161151732
247,402
จังหวัดตรัง จัดประชุมคณะทำงานบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืนจังหวัดตรัง ครั้งที่ 4 ประจำปี 2566
วันนี้ (22 ก.ย. 2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมคณะทํางานบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืน จังหวัดตรัง ครั้งที่ 4 ประจําปี 2566 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความพร้อมการจัดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดําน้ําอนุรักษ์ทําลายสถิติโลกจังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2566 ในพื้นที่เกาะกระดาน เกาะมุก เกาะแหวน จังหวัดตรัง ซึ่งจังหวัดตรัง โดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ร่วมกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูบิเคชั่น จํากัด ผู้ผลิตรายการฉันชอบเที่ยวและผู้จัดกิจกรรม “Go Green Active กิจกรรม ดําน้ําอนุรักษ์ทําลายสถิติโลก” มีโครงการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และมีจิตสํานึกอันดีในการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติ เพื่อลดสภาวะโลกร้อนอันเป็นเหตุแห่งภัยพิบัติ ตลอดจนสร้างทัศนคติในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยต่อสาธารณชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อันจะกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ต่างๆ โดยในปี 2566 จะจัดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ณ เกาะกระดาน จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมนักดําน้ําจํานวนมากที่สุดทําลายสถิติโลก เพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง ณ จังหวัดตรัง โดยจะระดมนักดําน้ํานานาชาติเพื่อทํากิจกรรมฟื้นฟูแนวปะการัง และแข่ง Rally ใต้น้ําชิงถ้วยรางวัล Open Water Princess Cup กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสาธารณประโยชน์ โดยการปลูกจิตสํานึกของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน อันสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพิจารณาติดตามความก้าวหน้าของแผนปฏิบัติงานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืน จังหวัดตรัง ในด้านบริหารจัดการเรือและท่าเทียบเรือ ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวบนฝั่งและในทะเล ด้านบริหารจัดการขยะบริเวณแหล่งท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมดําน้ํา ด้านการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงติดตามการดําเนินงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืนด้วย
22/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922172319762
247,403
จังหวัดตรัง จัดประชุมคณะทำงานบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืนจังหวัดตรัง และติดตามความพร้อมการจัดกิจกรรม “Go Green Active กิจกรรม ดำน้ำอนุรักษ์ทำลายสถิติโลก”
วันนี้ (22 กันยายน 2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานการประชุมคณะทํางานบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืน จังหวัดตรัง ครั้งที่ 4 ประจําปี 2566 ณ ห้องพระยารัษฎา ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดตรัง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ติดตามความพร้อมการจัดโครงการ Go Green Active กิจกรรมดําน้ําอนุรักษ์ทําลายสถิติโลกจังหวัดตรัง ระหว่างวันที่ 10-12 พฤศจิกายน 2566 ในพื้นที่เกาะกระดาน เกาะมุก เกาะแหวน จังหวัดตรัง ซึ่งจังหวัดตรัง โดยสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ร่วมกับบริษัท เอ็มซีเอ็ม คอมมูบิเคชั่น จํากัด ผู้ผลิตรายการฉันชอบเที่ยวและผู้จัดกิจกรรม “Go Green Active กิจกรรม ดําน้ําอนุรักษ์ทําลายสถิติโลก” มีโครงการจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และมีจิตสํานึกอันดีในการอนุรักษ์พื้นที่ทางธรรมชาติ เพื่อลดสภาวะโลกร้อนอันเป็นเหตุแห่งภัยพิบัติ ตลอดจนสร้างทัศนคติในการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและส่งเสริมภาพลักษณ์อันดีของประเทศไทยต่อสาธารณชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศ อันจะกระตุ้นให้เกิดการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และใช้พลังงานสะอาดในพื้นที่ต่างๆ โดยในปี 2566 จะจัดขึ้นในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 ณ เกาะกระดาน จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นกิจกรรมรวมนักดําน้ําจํานวนมากที่สุดทําลายสถิติโลก เพื่อฟื้นฟูแนวปะการัง ณ จังหวัดตรัง โดยจะระดมนักดําน้ํานานาชาติเพื่อทํากิจกรรมฟื้นฟูแนวปะการัง และแข่ง Rally ใต้น้ําชิงถ้วยรางวัล Open Water Princess Cup กิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ในการสร้างสาธารณประโยชน์ โดยการปลูกจิตสํานึกของประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดภาวะโลกร้อน อันสอดคล้องกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันนอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพิจารณาติดตามความก้าวหน้าของแผนปฏิบัติงานการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืน จังหวัดตรัง ในด้านบริหารจัดการเรือและท่าเทียบเรือ ด้านการบริหารจัดการการท่องเที่ยวบนฝั่งและในทะเล ด้านบริหารจัดการขยะบริเวณแหล่งท่องเที่ยว ด้านกิจกรรมดําน้ํา ด้านการรักษาความปลอดภัยให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว รวมถึงติดตามการดําเนินงานของฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด ในการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเกาะกระดานอย่างยั่งยืน ด้วย
22/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922173211768
247,404
องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล จัดประชุมขับเคลื่อนอนาคตสตูลด้านการท่องเที่ยว ประจำปี 2566
วันนี้ (22 ก.ย. 66) ที่ห้องประชุมศูนย์ข้อมูลสารสนเทศการท่องเที่ยว อบจ.สตูล อําเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เสียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนอนาคตสตูลด้านการท่องเที่ยว ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ เอกชน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อบังคับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ว่าด้วยการจัดตั้งสภาการท่องเที่ยวองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล รวมถึงการสรรหาคณะกรรมการ/คณะกรรมการ สภาท่องเที่ยว อบจ.สตูล ปีงบประมาณ 2566
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922174228771
247,405
กระทรวงการคลัง เตรียมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้เกษตรกรต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้า จะมีการเสนอกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อจะเร่งดําเนินการช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ของเกษตรกรที่จะเสนอในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแต่การพักชําระหนี้เหมือนอย่างที่เคยทํามาในอดีต แต่จะเป็นมาตรการที่จะเข้าไปดูแลฟื้นฟูสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรที่เข้าโครงการ โดยภายหลังระยะเวลาพักหนี้ 3 ปี เกษตรกรจะต้องมีความมั่นคงทางการเงินและมีมูลหนี้ลดลงจากเดิม โดยในวันจันทร์ที่ 25 กันยายนนี้ จะมีการขอความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม โดยยืนยันว่ากรอบแนวทางนั้นมีความช่วยเหลือที่เหมาะสมกับลูกหนี้เกษตรกรทุกกลุ่ม ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณราว 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในเบื้องต้นการเข้าร่วมโครงการดังกล่าวเกษตรกรจะต้องเป็นผู้ที่เข้ามาติดต่อและลงทะเบียนผ่านหน่วยงานภาครัฐด้วยตนเองซึ่งในเบื้องต้นจะดูแลกลุ่มเกษตรกรรายย่อยก่อน เป็นอันดับแรกรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังกล่าวอีกว่า มาตรการพักชําระหนี้เกษตรกรในเบื้องต้นนั้น อาจจะยังไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพราะต้องเร่งดําเนินการช่วยเหลือกลุ่มที่เปราะบางที่สุดตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่าสิ่งใดทําได้ให้ทําก่อนทําทันที ซึ่งในอนาคต หากรัฐบาลมีความสามารถเพียงพอก็จะขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมเกษตรกรทุกกลุ่มต่อไป
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922204559822
247,406
ผู้บริหารตลาดโรงทอจอหอ เข้าพบพัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา หารือแนวทางประชาสัมพันธ์ขับเคลื่อน “ตลาดโรงทอ จอหอ ตลาดวิถีไทย ใหญ่ที่สุดในโคราช”
วันนี้ (22 ก.ย.66) เวลา 09.30 น. ดร.ชาตรี โสภณบรรณารักษ์ ที่ปรึกษาตลาดโรงทอจอหอ เข้าพบ นางอรุณรัตน์ ชิงชนะ พัฒนาการจังหวัดนครราชสีมา ณ ห้องประชุมสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมหารือแนวทางความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์ “ตลาดโรงทอ จอหอ ตลาดวิถีไทย ใหญ่ที่สุดในโคราช” ให้เป็นที่รู้จัก และเชิญชวนผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP และสินค้าชุมชน เข้าร่วมจําหน่ายสินค้าในรูปแบบตลาดครบวงจร มิติใหม่ของวงการตลาดเมืองไทย สีสัน แห่งความสุขในการจับจ่ายครบวงจร ชิมชมช้อป ชิลล์ ภายใต้บรรยากาศสิ่งแวดล้อมที่ดี ในความเป็นต้นแบบตลาดที่ไม่ใช่เพียงคําว่า “ตลาด” โดยการนําวิวัฒนาการของตลาดในเมืองไทย ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี คนโคราช จากการค้าในอดีตมาถึงปัจจุบัน การจัดวางรูปแบบร้านค้าดูดี สะอาด ปลอดภัย ในบรรยากาศแบบสบายๆ เรียบง่าย รวมเป็นหนี่งเดียวบนพื้นที่กว่า 77 ไร่ 4 โครงการ 14 โซน ภายใต้ชื่อ ตลาดโรงทอ จอหอ ตลาดวิถีไทยใหญ่ที่สุดในโคราช ณ ห้องประชุมสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครราชสีมา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
22/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922181624785
247,407
ทีเคพาร์คยะลา เปิดตลาด ”แตโกปีมาร์เก็ต” ซีซั่น 3
ทีเคพาร์คยะลา เปิดตลาด ”แตโกปีมาร์เก็ต” ซีซั่น 3 ปั้น เยาวชนรุ่นใหม่สู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต วันนี้ 21 กันยายน 2566 TK PARK YALA ได้เปิด งาน”แตโกปีมาร์เก็ต”ซึ่งเป็นการเปิดตลาดในซีซั่น 3 ต่อจาก TK Young Marketplace SS 2 เมื่อปีที่แล้ว โดยให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า ซึ่งเป็นเยาวชนรุ่นใหม่ ได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม สร้างเสริมทักษะและประสบการณ์ ในกระบวนการของการเป็นผู้ประกอบการใหม่ และมีความพร้อมในการพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจ นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มช่องทางในการพัฒนาอาชีพ สร้างโอกาสและเป็นการเพิ่มรายได้ เข้าใจแนวคิดเรื่องการบริหารการตลาดและการดําเนินกิจกรรมการตลาด ตลอดจนส่งเสริมการจัดกิจกรรม การบริการและสร้างความบันเทิงให้แก่พี่น้องประชาชน ในพื้นที่ ภายในงานก็จะมีทั้งร้านค้าทั่วไป ร้านอาหาร ขนมอร่อยๆ ร้านขาย เครื่องดื่ม น้ําชา กาแฟ กิจกรรมการแสดงดนตรีสด กิจกรรม workshop แตออ สื่อใจ , เกมแตออ เผยใจ และอื่นๆ สําหรับ น้องๆ เยาวชน พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่สนใจ สามารถแวะเวียนไปเที่ยว ชมงาน เลือกซื้อสินค้า อาหาร ได้ ที่บริเวณ ลานหน้าตึกอุทยานการเรียนรู้ยะลาตึกใหม่ ศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ซึ่งงานจะจัดขึ้น ในวันที่ 22 ไปจนถึงวันที่ 24 กันยายน 2566 ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น.
22/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สทท.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922190309793
247,408
วธ.เลือก “ตลาดน้ำคลองแห” 1 ใน 6 ตลาดน้ำ สืบสานวัฒนธรรมไทย
กระทรวงวัฒนธรรม ชวนล่องใต้ เที่ยว ช้อป ชิม “ตลาดน้ําคลองแห” ยกระดับ 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจําปี 2566นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธีเปิดตัว 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจําปีงบประมาณ 2566 ของตลาดน้ําคลองแห โดยมี นายเอกชัย เลิศวิบูลย์ลักษณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม นายกเทศมนตรีเมืองคลองแห วัฒนธรรมจังหวัด 14 จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ รวมถึงส่วนราชการ ผู้นําชุมชนฯ และนักท่องเที่ยว เข้าร่วม ณ ตลาดน้ําคลองแห อําเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยมีกิจกรรมประกอบด้วย การแสดงศิลปะวัฒนธรรม โนรา รวมถึงเยี่ยมชมการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และเยี่ยมชมการจําหน่ายสินค้าอาหารของตลาดน้ําคลองแหปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยว่า กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้ขับเคลื่อนงานเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วย ทุนทางวัฒนธรรม การส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ด้วยการคัดเลือกตลาดน้ําที่มีความเข้มแข็ง ทั้งด้านสถานที่และชุมชน พร้อมร่วมมือร่วมใจพัฒนายกระดับตลาดน้ํา จํานวน 6 แห่ง ซึ่งนับว่าเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ ตลาดน้ํา คลองแหแห่งนี้ ได้รับการคัดเลือก เป็น 1 ใน 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทย ประจําปีงบประมาณ 2566 ของกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดน้ําคลองแห มีผู้นํา และเครือข่ายที่เข้มแข็ง ชุมชนมีทุนทางวัฒนธรรมที่ล้ําค่า มีสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงที่หลากหลายน่าสนใจ มีความพร้อมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติเป็นอย่างดี โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และชาวสิงคโปร์ตลาดน้ําคลองแห เป็นตลาดน้ําเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกของภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองกับวัดคลองแห ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นศูนย์กลางของวิถีชาวบ้านที่พายเรือมาค้าขายพืชผลการเกษตรสินค้าพื้นเมือง และเพิ่มเสน่ห์ด้วยการแต่งกายพื้นบ้าน ใช้ภาชนะใส่อาหารจากธรรมชาติ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง เปิดให้บริการทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 13.00 - 21.00 น.
22/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สทท.สงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922194051808
247,409
เกษตรนครพนม ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครพนม พร้อมจัดแสดงผลิตภัณฑ์กลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ
วันนี้ (22 ก.ย.66) เวลา 11.00 น. ที่ศูนย์สารสนเทศยางพารานครพนม สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนระดับจังหวัด จังหวัดนครพนม และมีนางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เป็นเลขานุการคณะทํางาน เพื่อขับเคลื่อนคณะทํางานในการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครพนม พร้อมวางแนวทางขับเคลื่อนวิสาหกิจชุมชน หวังสร้างรายได้สู่ชุมชนที่มั่นคง พร้อมนําเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มเกษตรกรที่ประสบความสําเร็จ โดยมีส่วนราชการและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุมนายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า สําหรับการประชุมคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชนจังหวัดนครพนม เป็นการติดตามและสนับสนุนการทํางานของคณะทํางาน ที่นับว่าเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนงานส่งเสริมและพัฒนาวิสาหกิจชุมชนให้มีประสิทธิภาพ และกําหนดแนวทางในการพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ที่มีแนวทางและเป้าหมาย มุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน และสิ่งสําคัญคือการนําเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางมาปรับใช้ เพื่อสร้างคุณค่าจากความหลากหลายของทรัพยากรที่มีอยู่ เพื่อเป็นการยกระดับเศรษฐกิจ เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของชุมชนที่เข้มแข็ง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า สํานักงานเกาตรจังหวัดนครพนม มีการจําแนกกลุ่มประเภทกิจการวิสาหกิจชุมชน/เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจชุมชนประเภทการผลิตสินค้าของจังหวัดนครพนม ทั้งหมด 14 ประเภท ซึ่งมีวิสาหกิจชุมชนที่ประเภทการผลิตพืชมากที่สุด จํานวน 620 แห่ง รองลงมาคือ การผลิตปศุสัตว์ จํานวน 568 แห่ง ผลิตภัณฑ์ผ้าทอ/เสื้อผ้า จํานวน 181 แห่ง การผลิตปัจจัยการผลิต จํานวน 137 แห่ง และการแปรรูปและผลิตภัณฑ์อาหาร จํานวน 133 แห่ง เครื่องจักสาน จํานวน 97 แห่ง การผลิตประมง จํานวน 74 แห่ง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร จํานวน 47 แห่ง เครื่องดื่ม จํานวน 24 แห่ง ของชําร่วย/ของที่ระลึก จํานวน 15 แห่ง ดอกไม้ประดิษฐ์ จํานวน 9 แห่ง สิ่งประดิษฐ์จากโลหะ จํานวน 5 แห่ง และประเภทเครื่องปั้น น้อยที่สุด จํานวน 3 แห่ง สําหรับการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนจากหน่วยงานภาคี ผลการสนับสนุนวิสาหกิจชุมชน ปี 2566 1) สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม ดําเนินการประชุมเชิงปฏิบัติการยกระดับการเพาะปลูกกัญชาทางการแพทย์เพื่อพัฒนาสายพันธุ์กัญชาสู่มาตรฐาน Medical Grade และการผลิตผลิตภัณฑ์จากกัญชา จํานวน 16 แห่ง และความรู้ด้านอื่นๆ จํานวน 11 แห่ง รวม 27 แห่ง 2) สํานักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ดําเนินการตรวจรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน จํานวน 35 แห่ง และสนับสนุนบรรจุภัณฑ์ 12 แห่ง รวม 47 แห่ง 3) ธนาคารออมสิน ส่งเสริมสนับสนุนด้านความรู้ ด้านการตลาด และปัจจัยโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น จํานวน 5 แห่ง และกิจกรรมพัฒนาและยกระดับโฮมสเตย์และการท่องเที่ยวชุมชน จํานวน 2 แห่ง รวม 7 แห่ง 4) สํานักงานประมงจังหวัดนครพนม ถ่ายทอดความรู้ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากลูกอ๊อดกบ การทําอาหารปลาลดต้นทุนและการแปรรูปปลา จํานวน 3 แห่ง5) สํานักงานตรวจบัญชีสหกรณ์นครพนม ถ่ายทอดความรู้หลักสูตรการจัดทําบัญชีต้นทุนประกอบอาชีพสําหรับคณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน/สมาชิกวิสาหกิจชุมชน และส่งเสริมการจัดทําบัญชีวิสาหกิจชุมชน จํานวน 11 แห่ง 6) สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครพนม ถ่ายทอดความรู้และสนับสนุนปัจจัย จํานวน 1 แห่ง 7) สํานักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ถ่ายทอดให้ความรู้เพื่อยกระดับวิสาหกิจชุมชนจากระดับปานกลางสู่ระดับดี จํานวน 12 แห่ง ยกระดับวิสาหกิจชุมชนจากระดับปรับปรุงเป็นปานกลาง จํานวน 5 แห่ง ส่งเสริมและพัฒนาบรรจุภัณฑ์ จํานวน 2 แห่ง พัฒนาวิสาหกิจชุมชนเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร จํานวน 1 แห่ง รวม 20 แห่ง 8) การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนในระดับพื้นที่ ทั้ง 12 อําเภอ วิสาหกิจชุมชน จํานวน 400 แห่ง นอกจากนี้ภายในการประชุมยังมีการจัดแสดงสินค้าและผลิตภัณฑ์ จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่ประสบความสําเร็จต่างๆ เช่น ผลิตภัณฑ์ข้าวฮางงอก สไมล์เหาะ ข้าวอินทรีย์สไมล์เหาะ ผลิตภัณฑ์คุกกี้ วิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวคุณภาพดี บ้านหนองนางด่อน และผ้าพื้นเมือง ไทแสก-บะหว้า และสบู่สครับจากกาแฟ และฟักข้าว ซึ่งเกิดจากการส่งเสริมและขับเคลื่อนกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จนสามารถพัฒนาและต่อยอดไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของกลุ่มสู่การสร้างรายได้ของชุมชน
22/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922234237841
247,410
จังหวัดอุทัยธานี จัดงาน "อร่อยนี้ที่อุทัย (ต้องไปชิมถึงจะรู้) ในระหว่างวันที่ 22 - 24 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมและต่อยอดภูมิปัญญาด้านอาหารของจังหวัดอุทัยธานี
เวลา 18.00 น. วันนี้ (22 ก.ย.66) ที่ลานสะแกกรัง อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานเปิดงาน "อร่อยนี้ที่อุทัย (ต้องไปชิมถึงจะรู้) โดยมี นายอลงกต วรกี นายพีระพล ตัณฑโอภาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี นางสาวปานัดฌา ไทยเศรษฐ์ นายกเทศมนตรีเมืองอุทัยธานี ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมงานจังหวัดอุทัยธานีจัดงาน "อร่อยนี้ที่อุทัย (ต้องไปชิมถึงจะรู้) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและต่อยอดภูมิปัญญาด้านอาหารของจังหวัดอุทัยธานี ให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้รู้ว่าจังหวัดอุทัยธานี ไม่ได้มีดีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังมีอัตลักษณ์ทางด้านอาหาร ที่อยากเชิญชวนให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้ลิ้มลองรสชาติอาหารของจังหวัดอุทัยธานี ที่จะนําไปสู่การสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดอุทัยธานีอีกด้วย โดยกิจกรรมภายในงานประกอบด้วยสุดยอดร้านอาหารทั้ง 8 อําเภอของจังหวัดอุทัยธานี ตลาดริมแม่น้ําสะแกกรังจากผู้ประกอบการ OTOP และพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี กิจกรรมแข่งขันสุดยอดฝีมืออาหารถิ่นจังหวัดอุทัยธานี คือ ต้มส้มปลาแรด ปลาเห็ด (ทอดมันปลาแรด) และผัดหมี่โบราณจึงขอเชิญผู้ที่สนใจเที่ยวงาน "อร่อยนี้ที่อุทัย (ต้องไปชิมถึงจะรู้)" ในระหว่างวันที่ 22 - 24 กันยายน 2566 ณ บริเวณลานสะแกกรัง อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
22/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
อุทัยธานี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุทัยธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922202348814
247,411
จังหวัดนครพนม จัดกิจกรรมสืบสานภูมิปัญญา ส่งเสริมการท่องเที่ยว โชว์เมนูเด็ดอาหารปรุงจากต่อหัวเสือ
วันที่ 22 กันยายน 2566 ที่ลานหน้าที่ว่าการอําเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เป็นประธานเปิดงานของดีอําเภอปลาปากและงานประเพณีเทศกาลกินต่อหัวเสือโลก ประจําปี 2566 ที่นายสมศักดิ์ บุญจันทร์ นายอําเภอปลาปากร่วมกับ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ และชาวอําเภอปลาปากจัดขึ้น เพื่อสืบสาน ส่งเสริม และอนุรักษ์ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น เกี่ยวกับการเลี้ยงต่อหัวเสือ และนําต่อหัวเสือมาประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ รวมถึงการนําของดีจากโครงการปลาปาก แซส ซิตี้ (Plapak SEDZ city) รักษ์ปลาปาก จากโคก หนอง นา สู่เขตเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้โครงการอําเภอบําบัดทุกข์ บํารุงสุข ในแต่ละชุมชนมาจัดแสดง ให้ผู้ที่มาร่วมงานตลอดจนนักท่องเที่ยวได้รับรู้และจับจ่ายซื้อหาไปใช้ไปรับประทาน เป็นการสร้างการรับรู้ เพิ่มช่องทางการตลาด ส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ซึ่งในวันนี้มีกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมากมาย ให้ผู้ที่มาร่วมงานได้สนุกสนานที่มีทั้งการแสดง ศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน การฟ้อนรํา โดยที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษคงหนีไม่พ้น การรอชิมเมนูอาหารที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมลงมือปรุงด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก กับเมนูที่นําต่อหัวเสือมาเป็นวัตถุดิบหลัก โดยมีการโชว์การปรุงถึง 3 เมนู ประกอบไปด้วยเมนู ลาบต่อหัวเสือ อ่อมต่อหัวเสือ และปิดท้ายด้วยยําลูกต่อหัวเสือ ซึ่งเมื่อแต่ละเมนูเมื่อแล้วเสร็จใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีอาหารก็หมด เพราะล้วนมีความอร่อยที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามีความแตกต่างจากวัตถุดิบชนิดอื่นที่นํามาปรุงเป็นอาหารอย่างมาก ที่สําคัญไม่ได้หาทานได้บ่อย ๆ เพราะราคาตัวอ่อนต่อหัวเสือที่นํามาปรุงอาหารสูงถึงกิโลกรัมละประมาณ 800-1,000 บาทนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมการแข่งขันการประกวดรังต่อหัวเสือ ที่แต่ละชุมชนจะนํามาแข่งขันกันว่ารังต่อของชุมชนไหนจะมีขนาดใหญ่ที่สุด มีความสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งปรากฏว่าในปีนี้ตําบลโคกสว่างคว้ารางวัลอันดับ 1 ไปครองพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท ส่วนการแข่งขันประกอบเมนูอาหารต่อหัวเสือที่แต่ละชุมชนส่งเข้าแข่งขัน โดยมีการนําต่อหัวเสือมาดัดแปลงเป็นเมนูอาหาร ที่มีทั้งที่เป็นอาหารอีสานพื้นบ้านทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นแกงตัวต่อ ต้มยําต่อหัวเสือ นึ่ง ทอด หมก น้ํายาขนมจีนต่อหัวเสือ ไปจนถึงเมนูพิซซ่าต่อหัวเสือ โดยตําบลหนองเทาใหญ่สามารถคว้ารางวัลอันดับ 1 ไปครองพร้อมเงินรางวัล 2,000 บาท การจัดประกวดซุ่มนิทรรศการการกินต่อหัวเสือ การจําหน่ายสินค้า OTOP/ธิดาต่อในซุ้ม ซึ่งแต่ละชุมชนมีการรังสรรค์ออกมาให้มีความแตกต่างที่สวยงามพร้อมบอกเล่าเรื่องราวในการสืบสานภูมิปัญญาในการเลี้ยงต่อหัวเสือที่เป็นอาชีพสุดเสี่ยง แต่สร้างรายได้หลักแสนต่อปีให้คนในชุมชนได้เป็นอย่างดี ยิ่งช่วงไหนหายากจะส่งผลให้ราคาขยับตัวสูงถึงกิโลกรัมละ 2,000 บาท โดยการเลี้ยงจะใช้วิธีปล่อยตามธรรมชาติประมาณ 3-4 เดือนก่อนเก็บผลผลิตสู่ท้องตลาด ทั้งนี้ในชุมชนได้มีการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาในการเก็บผลผลิตจากเดิมที่ใช้วิธีการเผารังต่อทําให้เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ มาประดิษฐ์ชุดล้วงรังต่อที่นอกจากจะทําให้ผู้เลี้ยงมีความปลอดภัยสูงขึ้นในการล้วงรังต่อ ทั้งยังช่วยลดการสูญพันธุ์ที่เกิดจาการเผาหรือรมควัน ที่สําคัญคือทําให้สามารถเก็บผลผลิตเพิ่มขึ้นได้รังละ 2-3 รอบ และมีการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ตําบลเพื่อวางจําหน่าย
22/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครพนม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครพนม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922204943824
247,412
อบจ.โคราช จัดงาน Korat PAO Street battle 2023 ภายใต้แคมเปญ “โคราชเที่ยวได้ทุกเดือน” จัดให้ฟรี ไม่มีกั๊ก
วันนี้ (22 ก.ย.66) เวลา 19.00 น. ที่บริเวณ Art Gallery & Exhibition (ข้างวัดพายัพ) จ.นครราชสีมา นางยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดงาน Korat PAO Street battle 2023 ที่จัดขึ้นภายใต้แคมเปญโคราชเที่ยวได้ทุกเดือน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว สอดคล้องกับพันธกิจ “สร้างคน สร้างเศรษฐกิจ สร้างเมืองโคราช” และ เป้าหมายความสําเร็จ 3 สร้าง 2 พัฒนา ของ อบจ.นครราชสีมา และสนับสนุน จ.นครราชสีมา เป็นเมืองไมซ์ (MICE) ฉะนั้น การจัดกิจกรรมครั้งนี้ จึงนับเป็นเวทีที่จุดประกายความฝันให้เยาวชน และประชาชน ทั่วไป ที่มีความสนใจด้านการเต้น Breaking หรือ B-BOY ได้มีพื้นที่โชว์ความสามารถ พร้อมทั้งมีเงินรางวัลการันตีรวมกว่า 40,000 บาท ทําให้มีผู้สนใจสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ และมาสมัครหน้างานเป็นจํานวนมากการแข่งขันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 1.ประเภททีม 3 คน ประชาชนทั่วไป ไม่จํากัดอายุ ผู้ชนะเลิศรับเงินรางวัลทันที 15,000 บาท และรองชนะเลิศ 10,000 บาท และ 8,000 บาทตามลําดับ และ 2.ประเภทเดี่ยว เยาวชนทั่วไปอายุไม่เกิน 15 ปี ชนะเลิศรับเงินรางวัลทันที 4,000 บาท รองชนะเลิศ รับ 3,000 บาท และ 2,000 บาทตามลําดับ นอกจากเวทีการประกวดแล้ว บริเวณลานกิจกรรมมีการจําหน่ายสินค้า ชมการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง ศิลปินลูกหลานโคราช อาทิ วงบ้านรักฟ้อน, วง New Cluster และ วง Fear Brand
22/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นครราชสีมา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230922232731839
247,413
บ้านม้าท่าน้ำ ลำปาง คว้ารางวัลจากงาน "The 8th International Invention Innovation Competition in Canada (iCAN 2023) ประเทศแคนาดา
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า ผู้ประกอบกิจการท่องเที่ยว "บ้านม้าท่าน้ํา" อ.เมืองลําปาง จ.ลําปาง ได้รับรางวัลจากประเทศแคนาดา ในงาน "The 8th International Invention Innovation Competition in Canada (iCAN 2023)" ประเภท Gold Medal, Certificate of Excellence : Outstanding Creativity and Excellence in Innovation และ International Speacial Award : Turkish Inventors Association (TUMMIAD) จากการส่งผลงานรถม้าคู่ละกอน , ม้าไม้แกะสลัก "อาลีบาบา", ผลิตภัณฑ์เกือกม้ามงคล และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกจากบ้านม้าท่าน้ํา ในการเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ประเทศไทย ร่วมกับผลงานจากย่านเมืองเก่า "คลองบางหลวง" กรุงเทพมหานคร ภายใต้แนวคิดการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Creative Tourism) ที่ประเทศแคนาดา โดยผลงานจัดอยู่ในกลุ่มการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ประเภทการท่องเที่ยว (รถม้า) และผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกทางการท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวสามารถเดินท่องเที่ยวในเมืองลําปาง นั่งรถม้ากับบ้านม้าท่าน้ํา Lampang Travel By Barn Ma Tha Nam โดยภายในบ้านม้าท่าน้ํามีกิจกรรมการสาธิตการตอกเกือกม้า, สาธิตอาบน้ําม้า, กิจกรรมนั่งรถม้า, Workshop ข่ายเกือกม้าดักฝัน, Workshop และพวงกุญแจจากแผงผมคอม้า เป็นต้น และสามารถสอบถามเพิ่มเติทและจองบริการล่วงหน้า ทางหมายเลขโทรศัพท์ 08-6658-6198 พิกัดบ้านม้าท่าน้ํา : https://maps.app.goo.gl/2Wi8o1fwf6C3yiNp8
23/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923100947868
247,414
ททท. ส่งเสริมพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวสู่เทคโนโลยีดิจิทัล เดินหน้าการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)เปิดเผยใน โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการท่องเที่ยว เพื่อพัฒนาการบริการและสินค้าท่องเที่ยวยุคดิจิทัล ว่า อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือว่ามีความสําคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย โดยเชื่อว่าในปีนี้อุตสหกรรมท่องเที่ยวจะสามารถกลับมาเติบโตได้หลังจากเกิดโรคระบาดโควิด19 นอกจากนี้รัฐบาลได้ให้ความสําคัญในเรื่องของการท่องเที่ยวเป็นอันดับต้นๆ ของการพัฒนาประเทศ และการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน รวมถึงนโยบายฟรีวีซ่า ที่จะเริ่มในวันที่ 25 กันยายนนี้ คาดว่าจะทําให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศไทยรวมปีนี้กว่า 28 ล้านคนสามารถสร้างเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศได้เป็นจํานวนมาก อย่างไรก็ตามต้องมีแนวทางที่จะทําให้นักท่องเที่ยวประทับใจ สร้างการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยการสนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ให้ความสําคัญกับการลงทุนในการพลิกโฉมสู่ดิจิทัลของภาคธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ ร่วมพัฒนานวัตกรรมบนพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทัลรวมถึงการพัฒนทักษะทางดิจิทัล ทั้งนี้ การนําเทคโนโลยีมาปรับใช้จะสามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างความยั่งยืนให้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้ทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจนําเที่ยว ธุรกิจร้านอาหาร เพื่อการต่อยอดสามารถนําเครื่องมือสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ มีความพร้อมในการเข้าสู่ยุคดิจิทัลและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในอนาคต
23/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923191716952
247,415
ททท. จับมือ สบร. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ "การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ณ จ.ลำปาง 24-26 กันยายน นี้
นางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สํานักงานลําปาง เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และสํานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) กําหนดจัดกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการ "การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based-Tourism)" ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2566 ณ พื้นที่แหล่งเรียนรู้ในจังหวัดลําปาง โดยมีกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วยเจ้าหน้าที่แหล่งเรียนรู้จากทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในพื้นที่เมือง/ชุมชน และภาคีเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ ผ่านการพัฒนาเจ้าหน้าที่ของแหล่งเรียนรู้ แหล่งท่องเที่ยวเชิงความรู้ ให้มีทักษะกระบวนการในการพัฒนาชุดความรู้ ออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่น่าสนใจ เพื่อนําไปสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงทักษะที่เกี่ยวข้องแหล่งท่องเที่ยวเชิงความรู้ และเชื่อมโยงความรู้ไปสู่ชุมชน โดยใช้กระบวนการจัดการความรู้ โดยมีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์ลําปาง เป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้
23/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923123155898
247,416
15 โรงงานไออาร์พีซีรับรางวัล CSR-DIW Awards ประจำปี 2566 ภายใต้ “โครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน” โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม
ที่ห้องรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี คณะผู้แทน 15 ทะเบียนโรงงานของ บริษัท ไออาร์พีซี จํากัด (มหาชน) เข้าร่วมพิธีรับมอบโล่และเกียรติบัตรรางวัล CSR-DIW Awards ประจําปี 2566 จัดโดย กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อมอบให้แก่สถานประกอบการที่ให้ความสําคัญ ส่งเสริมและสนับสนุนการปฎิบัติงานตามมาตรฐานความรับผิดชอบของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่มีต่อสังคมได้อย่างครบถ้วนและต่อเนื่อง สร้างความสมดุลทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ทําให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถอยู่ร่วมกับชุมชน สังคม ได้อย่างยั่งยืน ไออาร์พีซีเข้าร่วม “โครงการส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน” และได้รับรางวัล CSR-DIW Awards มาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 16 ปี ในปีนี้ได้รับรางวัลโดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ1. CSR-DIW Continuous Awards ต่อเนื่อง 10 ปี คือรางวัลโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศที่มีคุณค่าต่อสังคม มอบให้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการดําเนินงานโครงการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมผ่านกิจกรรมการมีส่วนร่วมกับชุมชนตลอดระยะเวลา 10 ปี โดยได้รับเกียรติจาก นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เป็นผู้มอบรางวัลฯ ให้กับ 5 ทะเบียนโรงงาน ดังนี้ 1.1 โรงงานผลิตอะเซทิลีน แบล็ค (AB) 1.2 โรงงานผลิตเอทธิลีน (ETP) 1.3 โรงงานผลิตน้ํามันหล่อลื่นพื้นฐาน (LBOP) 1.4 โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลิโพรพิลีน (PP) 1.5 โรงผลิตพลังงานไฟฟ้าและไอน้ํา (PW)2. รางวัล CSR-DIW Continuous Awards เป็นรางวัลสําหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้นําหลักปฏิบัติของมาตรฐาน CSR-DIW ไปประยุกต์ใช้ โดยเลือกแสดงเอกสารหลักฐานและกิจกรรมที่สอดคล้องกับ 7 หัวข้อหลัก 9 เกณฑ์ปฏิบัติ ให้กับ 10 ทะเบียนโรงงาน ดังนี้ 2.1 โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก Compounding Plastic (CCM) 2.2 โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก Compounding Plastic (CD1) 2.3 โรงงานแปรสภาพคอมไบน์แก๊สออยส์ (DCC/VGO) 2.4 โรงงานทําเคมีภัณฑ์อีบีเอสเอ็ม (EBSM) 2.5 โรงงานผลิตเม็ดพลาสติก โพลีเอทธิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) 2.6 โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกโพลีโพรพิลีนชนิดคอมพาวด์ (PPC) 2.7 โรงงานผลิตก๊าซโพรพีลีน (PRP) 2.8 โรงงานจัดหาน้ําทําน้ําให้สะอาดเพื่อจําหน่ายน้ําไปยังอาคารและโรงงานอุตสาหกรรม (UTBK) 2.9 โรงงานบําบัดน้ําเสียรวม (WWT3) 2.10 โรงงานผลิตแปรรูปน้ํามันหนักให้เป็นผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (UHV)ทั้งนี้ ไออาร์พีซี มุ่งมั่นดําเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วยความห่วงใย แบ่งปัน และใส่ใจ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดไป .
23/9/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923134747912
247,417
จังหวัดกระบี่เปิดตัว “กิจกรรมส่งเสริมและสร้างสรรค์สินค้าอัตลักษณ์ อาหารพื้นถิ่น : Local Good Foodtruck” ชูอาหารพื้นถิ่นผ่านรถ Foodtruck สร้างความสุข กระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วง Green Season
วันที่ 22 กันยายน 2566 นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในพิธีเปิด "งาน Local Good Foodtruck” ชูอาหารพื้นถิ่นของดีจังหวัดกระบี่ ผ่านรถ Foodtruck กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัดช่วง Green Season โดยมี นางวิภารัตน์ ภูเก้าล้วน พาณิชย์จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย นายศุภชัย รอดทอง นายกสมาคมร้านอาหารจังหวัดกระบี่ นายเดชาธร ขอบุตร เลขาธิการหอการค้าจังหวัดกระบี่ และมี หัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วม Kick off เปิดงาน “Local Good Foodtruck” ชูอาหารพื้นถิ่น ของดีจังหวัดกระบี่ ผ่านรถ Foodtruck กระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจในจังหวัด ช่วง Green Season ส่งเสริมการตลาดเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้า สร้างรายได้เพิ่มให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการด้านอาหาร อาหารพื้นถิ่น ผลิตภัณฑ์สินค้าชุมชน และเพื่อประชาสัมพันธ์อาหารพื้นถิ่น จังหวัดกระบี่ ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคและนักท่องเที่ยว ณ สวนสาธารณะธารา บริเวณลานประติมากรรม The Story of Loveจังหวัดกระบี่ โดยสํานักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ บูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชน ในพื้นที่จังหวัด จัดกิจกรรม ส่งเสริมและสร้างสรรค์สินค้าอัตลักษณ์ อาหารพื้นถิ่น : Local Good Foodtruck ระหว่างวันที่ 22 – 24 กันยายน 2566 ณ สวนสาธารณะธารา บริวเณลานประติมากรรม The Story of Love โดยคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพมาจําหน่ายในงานผ่านรถ Foodtruck พร้อมกิจกรรมแคมปิ้ง กิจกรรมเวิร์คช็อปด้านศิลปะ การจัดนิทรรศการสินค้าอัตลักษณ์ อาหาร พื้นถิ่น และการแสดงดนตรีของเยาวชน เพื่อส่งเสริมและเป็นเวทีให้เยาวชนได้แสดงความสามารถ ได้ร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่มีโอกาสค้าขายและช่วยฟื้นฟูศักยภาพทางเศรษฐกิจของจังหวัดกระบี่ โดยมีร้านค้า LocalGoodFoodtruck เข้าร่วมจํานวน 23 ร้าน #LocalGoodFoodtruck #KrabiGastronomy #MOCKrabi #FOOD #krabi #thailand # foodtruck #camp #cafecamp #สินค้าGIจังหวัดกระบี่ #ของดีเมืองกระบี่
23/9/2023
ภาคใต้
กระบี่
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923142351917
247,418
จังหวัดแพร่มอบรางวัลผู้ชนะการประกวด โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างมูลค่าการท่องการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ "เล่าเรื่องเล่า"
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 ที่ ABO+ Phrae Creative Wisdom Space นางสาวนิติยา พงษ์พานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดและประกาศเกียรติคุณ โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างมูลค่าการท่องการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ "เล่าเรื่องเล่า" ซึ่งจังหวัดแพร่ได้เปิดรับสมัครให้ประชาชน นักเรียนนักศึกษา ที่สนใจส่งผลงานคลิปวิดีโอเข้าร่วมประกวดระหว่างวันที่ 10 - 31 สิงหาคม 2566 และเผยแพร่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั้ง Facebook Instragram และ TikTok เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ รวมถึงส่งเสริมการตลาด สนับสนุนการอนุรักษ์และเผยแพร่ภูมิปัญญาเพื่อเพิ่มคุณค่าและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวด จํานวน 30 ผลงานจังหวัดแพร่จึงได้ประกาศผลการตัดสินการประกวดคลิปวิดีโอประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างมูลค่าการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ "เล่าเรื่องเล่า" มีผู้ได้รับรางวัล ได้แก่ ประเภทนักเรียน เยาวชน อายุไม่เกิน 20 ปี รางวัลชนะเลิศ นายเสฎฐวุฒิ กันทะเสน ชื่อผลงาน "ของดีเมืองแพร่ ต้องมาลองเที่ยวแล้วนะ" รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นายชินพัฒน์ ศรีเรือน ชื่อผลงาน "เมืองแป้บ่ใจ่เมืองผ่าน" รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวญาณิศามน กันถาด ชื่อผลงาน "โคสายพันธุ์เมืองแพร่" รางวัลความคิดสร้างสรรค์ นางสาวนิภาพร มั่งมี ผลงาน "เพ้นท์หม้อห้อมเมืองแพร่กั๋น" รางวัลขวัญใจมหาขน นางสาวญาณิศามน กันถาด ผลงาน "โคสายพันธุ์เมืองแพร่" ประเภทประชาชนทั่วไป รางวัลชนะเลิศ นายสราวุฒิ พรมเกตุ ชื่อผลงาน "แพร่หยุดเวลา" รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 นายธนกร บุญตา ชื่อผลงาน "ลาบเมืองแป้" รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 นางสาวโรสสุคล สีเถื่อน ชื่อผลงาน "ถนนลอยฟ้าพระธาตุปูแจ" รางวัลความคิดสร้างสรรค์ นางสาวรวี สีขาว ผลงาน "ขนมจีนน้ําหมู ตัวตนที่เรียบ ชีวิตที่ไม่เหมือนใคร" รางวัลขวัญใจมหาชน นายสราวุฒิ พรมเกตุ ผลงาน "แพร่หยุดเวลา"ทั้งนี้ ผลงานที่ได้รับรางวัลจะสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ทั้งจังหวัดแพร่และเจ้าของผลงาน ในการนําไปเผยแพร่เพื่อประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ต่อไป
23/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923144927923
247,419
ตรัง- หนุ่มวัย 25 ปี หัวก้าวหน้าประสบปัญหาโควิดลาออกจากงานในเมืองกรุง กลับบ้านหันปลูกกระบองเพชรหรือแคคตัส กลายเป็นธุรกิจส่วนตัวส่งขายทั่วโลก เจ้าแรกเจ้าเดียวในจ.ตรัง สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน
ที่บ้านเลขที่ 272 หมู่ 5 ต.ในควน อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายสิรวิชญ์ มากแก้ว อายุ 25 ปี ผันตัวเองมาเป็นเกษตรกรปลูก และเพาะขายพันธุ์ต้นกระบองเพชร หรือแคคตัส ส่งขายออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ โดยใช้เวลาในการลงมือทํารวมกันประมาณ 3 ปี จนประสบความสําเร็จในขณะนี้สร้างโดยรายได้เข้ากระเป๋าเดือนละนับแสนบาท โดย นายสิรวิชญ์ บอกว่า ตนเองเรียนจบการศึกษาคณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์ สาขาวิชาสถิติธุรกิจและการประกันภัย จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ หลังจบทํางานด้านการประกันภัยที่กรุงเทพฯ ปรากฏว่าประสบปัญหาโควิด ทําให้ตนเองอยากกลับบ้าน แต่ก็คิดว่าจะทํางานอะไรดี เมื่อเห็นแคคตัสจึงรู้สึกชอบ และสนใจ จึงเริ่มทดลองเลี้ยง และคิดว่าทําอย่างไรให้เป็นธุรกิจได้ จึงลองสร้างตลาดดู จึงใช้วิธีซื้อมาขายไปก่อน ไม่ได้ทําเพาะขยายพันธุ์เอง ปรากฏว่าทําได้ ขายได้ มีลูกค้า จึงได้ทดลองวางอนาคตดูว่าจะต่อยอดไปได้หรือไม่ ตอนแรกแค่ขายในไทย จากนั้น จึงเริ่มเจาะตลาดต่างชาติได้ จึงลาออกจากงานประจําดังกล่าว จึงเริ่มต้นทําจริงจัง สร้างโรงเรือนขึ้นมา 2 โรง โดยโรงหนึ่งเป็นโรงเพาะเมล็ด ,โรงอนุบาล ส่วนอีกโรงเนื้อที่ 200 ตารางเมตร เป็นโรงปลูก เริ่มต้นด้วยการซื้อพ่อแม่พันธุ์จากที่อื่นมาก่อน โดยคิดว่าอยากได้ลูกไม้ลักษณะแบบไหน ก็ซื้อพ่อแม่พันธุ์มา จากนั้นนํามาผสมแล้วเกิดเมล็ดมา ก็นําเมล็ดไปเพาะ ซึ่งเมล็ดแต่ละต้นเกิดจากจินตนาการของตน เพราะว่าอยากได้ลูกแบบไหน ก็สามารถเลือกพ่อ เลือกแม่พันธุ์มาผสมได้ ซึ่งเมล็ดแต่ละฝักที่ได้จะเกิดจากจินตนาการของผู้เลี้ยงจริงๆ นอกจากนั้น ก็มีการสั่งซื้อเมล็ดพันธุ์จากต่างประเทศด้วย เพื่อนําเข้าพ่อแม่พันธุ์แท้ 100% หวังนํามาพัฒนาสายพันธุ์ต่อไป จากนั้นก็นํามาเพาะขยายและผสมพันธุ์ด้วยจิตนาการของตนเอง ทําให้ต้นไม้ที่ได้แต่ละต้นจะมีสีสันเพียงหนึ่งเดียว ไม่ซ้ําใครหรือต้นไหน ต้องสร้างเอกลักษณ์ให้พันธุ์ไม้ของเราเอง ทั้งสีสัน รูปทรง ก็ต้องพัฒนาต่อไป พร้อมกับสร้างแบรนด์ของเราเอง สร้างจุดขายว่าสวนของเราจะสร้างไม้แบบนี้ โดยขณะนี้ทํามาได้ประมาณ 3 ปีแล้ว ให้ได้รับความสนใจมากทั้งในและต่างประเทศ ภาพรวมมีในแปลงปลูกขณะนี้นับหมื่นต้น ส่วนมากที่เลี้ยงคือ พันธุ์ยิมโนคาไลเซียม (Gymnocalycium) เพราะส่วนตัวชอบวิวัฒนาการของมัน เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีสีสัน ทําให้สามารถต่อยอดได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด สามารถนํามาพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์เป็นลูกผสม ให้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างไปจากต้นเดิม ทั้งสีสัน รูปร่าง รูปทรง รวมทั้งจากมีหนาม ไม่ให้มีหนาม หรือจากไม่มีหนามให้มีหนาม หรือให้มีด่าง ตอนต้นเล็กลักษณะหนึ่ง พอต้นโตก็เป็นอีกแบบหนึ่ง สวยงามไม่เหมือนกันสักต้น ถือเป็นเสน่ห์ของกระบองเพชรสายพันธุ์นี้ ซึ่งสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับต้นไม้ที่ได้อย่างไม่หยุดนิ่ง มีราคาจําหน่ายตั้งแต่ต้นละหลักสิบถึงหลักหมื่นบาท ยกตัวอย่างไม้ตระกูลไดโนเสาร์ บั้งนูนเหมือนหลังไดโนเสาร์ (ภาพตอนท้ายไฟล์ 2 สัมภาษณ์) แค่ต้นเล็กๆราคา 2.5 หมื่นบาท ตลาดหลักตอนนี้ 90% เป็นตลาดต่างประเทศ เพราะตนเองวางแผนเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว หวังเจาะตลาดต่างประเทศ เพราะในประเทศไทยมีคนทํา แต่เป็นพันธุ์ไม้ประดับทั่วไป แต่พันธุ์ไม้ของตนเป็นพันธุ์ไม้สวยงาม เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ จึงหันเจาะตลาดต่างประเทศเป็นหลัก เป็นพันธุ์ไม้ที่มีการจัดประกวด ซึ่งหากมีการส่งเข้าประกวดจะสามารถเพิ่มมูลค่าของไม้ของเรา มีคนรู้จักมากขึ้น ซึ่งตลาดตอนนี้ก็ถือว่ากว้างมากสามารถขยายตลาดไปได้เรื่อยๆ เพราะต่างประเทศแม้ว่าจะสามารถเลี้ยงได้ แต่สภาพอากาศไม่เหมาะสม ต้นไม้ของเขาจึงโตช้าและพัฒนาได้ช้ากว่าเรา แต่ประเทศไทยสภาพอากาศเหมาะสมกว่า จึงสามารถพัฒนาป้อนตลาดได้รวดเร็วกว่า ซึ่งขณะนี้ต่อเดือนสร้างรายได้ประมาณ 50,000-200,000 บาท และถือเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในจังหวัดตรัง โดยขายผ่านช่องทางออนไลน์เท่านั้น ทั้งทางอินสตาแกรม SouthernStarvalley_store , เพจ jays_cactus เฟสบุ๊ก ชื่อ บ้านสวนหุบเขาดาวใต้ หรือติดต่อทางเบอร์โทรศัพท์ 097-9261919 พร้อมบอกไปถึงคนที่สนใจว่า พันธุ์ไม้ชนิดนี้เหมือนเลี้ยงยาก แต่ความจริงเลี้ยงง่ายสําหรับคนที่สนใจ และสามารถต่อยอดไปเป็นธุรกิจได้ด้วย ทั้งนี้ แคคตัส ไม่ได้เป็นเพียงพืชประดับตกแต่ง เพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่เป็นพืชมงคลที่หลายคนเชื่อว่า ทําให้อายุยืนยาว และป้องกันศัตรูเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ตนเอง
23/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923155124935
247,420
รมว.คมนาคม ประชุมแก้ปัญหาโครงการฯคมนาคมและการท่องเที่ยว จ.อุดรธานีและ จ. สกลนคร
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ตรวจราชการที่จังหวัดอุดรธานี โดยได้เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าและรับฟังบรรยายสรุปผลการดําเนินงานโครงการสําคัญหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และสกลนคร โดยมี นายสุรศักดิ์ อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี กล่าวต้อนรับ มี นายกองตรี พิสิษฎ์ พิพัฒน์วิไลกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายธนพล กองทรัพย์ไพศาล ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายกองเอก สุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุล ประธานกรรมการบริษัท เมืองนิคมอุตสาหกรรม อุดรธานี หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ร่วมประชุม ที่ ห้องประชุมชั้น 3 แขวงทางหลวงอุดรธานี ที่ 1การประชุมหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม ได้นําเสนอแผนงานและความต้องการ ประกอบด้วย ของทางหลวงหมายเลข 2023 ตอนน้ําฆ้อง-ศรีธาตุ, ทางหลวงหมายเลข 2350 ตอนหนองหาน-กุมภวาปี , ทางหลวงหมายเลข 2022 ตอน นิคม-บ้านดุง เพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่สูงขึ้น บางสายอาจจะมียวดยานพาหนะจราจรสูงถึง 20,000 คันต่อวัน รวมทั้งได้ร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาผิวทางแคบ อันเป็นเส้นทางที่รถบรรทุกพืชผลทางการเกษตรเข้าสู่โรงงาน และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสําคัญ และโครงการบูรณะและก่อสร้างสะพานข้ามลําน้ําปาว ตอน น้ําฆ้อง-ศรีธาตุ อําเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม รับฟังความคิดเห็นจาก ส.ส.เพื่อไทย ในพื้นที่ให้มาก สําหรับโครงการในปี 2567 เนื่องจากเพิ่งได้เป็นรัฐบาลอาจจะไม่สามารถดําเนินการตอบสนองได้ทุกโครงการ ส่วนโครงการปี 2568 จะพยายามดําเนินการตอบสนองให้ได้มากที่สุด
23/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อุดรธานี
สวท.อุดรธานี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923192016953
247,421
คึกคัก !! งาน SINGORA FESTIVAL 2023 Amazing Singora สงขลาน่าอัศจรรย์ ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 เดินหน้าส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ณ บริเวณศาลาไทย หาดสมิหลา อำเภอเมืองสงขลา
วันนี้ (23 ก.ย. 66) นายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานเปิดงาน SINGORA FESTIVAL 2023 Amazing Singora สงขลาน่าอัศจรรย์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ ณ บริเวณศาลาไทย หาดสมิหลา อําเภอเมืองสงขลา โดยมีนางสาววิลาวรรณ โป้บุญส่ง ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสงขลา นางเลขา สุวรรณชาตรี วัฒนธรรมจังหวัดสงขลา นายวันชัย ปริญญาศิริ นายกเทศมนตรีนครสงขลา พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาชน และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมอย่างคึกคักท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาเป็นระยะนายกองเอก พุทธ กฤชคงพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จังหวัดสงขลา เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายในด้านการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่นชุมชน จนสินค้า OTOP การเกษตรและผลไม้ ความเป็นเอกลักษณ์ของเมือง อีกมากมาย เช่น การเป็นเมืองการค้าชายแดน การเป็นเมือง Sport City การเป็นเมือง MICE City และเมืองในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เป็นต้น ด้วยความหลากหลายของการท่องเที่ยว จังหวัดสงขลา จึงต้องมีกลยุทธ์ที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีการบริการที่ดี ปลอดภัย ได้มาตรฐาน การพัฒนาศักยภาพบุคคลด้านการท่องเที่ยว การบริหารการจัดการที่ดี รวมถึงดําเนินงานที่จะนําไปสู่เป้าหมายดังกล่าวนั้น จําเป็นต้องมีการพัฒนาการท่องเที่ยวและการประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไปสําหรับการจัดงาน Singora Festival Amazing Singora ในครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แคมเปญ “สงขลามาตะลุย” ในรูปแบบที่หลากหลาย ทั้งเขา ป่า นา เล พรุ สวน ควน คลอง ตะลุยชมกิจกรรมเทศกาล งานประเพณี ดนตรี กีฬา ศิลปะ และวัฒนธรรม ตะลุยชิมทั้งอาหารใต้ อาหารทะเล อาหารพื้นถิ่นที่มีให้เลือกมากมาย อีกทั้งภายในงาน ยังมีการนําเสนอความหลากหลายของสงขลา ผ่านนิทรรศการต่างๆ และพื้นที่โซนกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นโซน Singora Music Art & Culture แสดงงานนิทรรศการบ่งบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นสงขลาในมุมมองต่างๆ รวมถึงศิลปวัฒนธรรม และดนตรี, โซน Singora Food อาหารเลิศรส อาหารท้องถิ่น อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดสงขลา, โซน Singora Market ผลิตภัณฑ์ชุมชน ทั้งสินค้าการเกษตร วัฒนธรรม อาหารทะเล สินค้าทํามือ และโซน Singora Travel การออกบูธของกลุ่มผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว นอกจากนี้ ภายในบริเวณงานยังมีการจัดกิจกรรมสร้างการรับรู้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนสงขลาสู่มรดกโลก อาทิ กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ หัวข้อ “เล่าเรื่องเมืองเก่า” กิจกรรมทัศนศึกษาเมืองเก่า หัวเขาแดง – แหลมสน การแสดงด้านศิลปวัฒนธรรม การสาธิตจําหน่ายผลิตภัณฑ์ ภูมิปัญญา ทางวัฒนธรรม การถนอมอาหารวิถีลุ่มน้ําทะเลสาบสงขลา และนิทรรศการมรดกวัฒนธรรมสงขลาสู่มรดกโลก โดยได้รับการสนับสนุนการบูรณาการจากสํานักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา และ บริษัท ปตท. สผ. และ บริษัท ปตท.สผ. เอนเนอร์ยี ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด
23/9/2023
ภาคใต้
สงขลา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923203438970
247,422
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “Andaman Tourism Networking 2023” เชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยว งานเดียวครบ จบทั้งอันดามัน คาดการณ์เงินสะพัดกว่า 180 ล้านบาท
วันนี้ (23 ก.ย.66) ณ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง นายอํานวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตเป็นประธานแถลงข่าวความพร้อมการจัดงาน “Andaman Tourism Networking 2023” เชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยว งานเดียวครบ จบทั้งอันดามัน การจัดแถลงข่าวในครั้งนี้ สืบเนื่องจากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) นําโดย นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ต ควบประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) ร่วมกับ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง สตูล ร่วมจัดงาน “Andaman Tourism Networking 2023” เพื่อเชื่อมโยงเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว เชิญสมาชิก สทท.จากทั่วประเทศกว่า 500 คน เยี่ยมชมความสวยงามแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต พร้อมจับคู่เจรจาธุรกิจเชื่อมโยงหมุนเวียนแลกเปลี่ยน นักท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน ชูแหล่งท่องเที่ยวสําคัญๆใน 6 จังหวัดแถบอันดามัน ซึ่งได้รับเกียรติจากผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 6 จังหวัด นําเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นของดีของจังหวัดตน เตรียมพร้อมปัดฝุ่นผู้ประกอบการให้พร้อม รองรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งจะเริ่มเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในปี 2566 ในเดือนตุลาคมที่จะถึง คาดการณ์ว่าการจัดงานครั้งนี้ส่งผลให้เงินสะพัดเข้าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 180 ล้านบาททั้งนี้ นายชํานาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แถลงการณ์ดําเนินงานสภาด้วย วิสัยทัศน์ 4 เติม เติมทุน เติมคน เติมความรู้ เติมนวัตกรรม และเชื่อมโยงการท่องเที่ยวสู่อันดามัน สอดคล้องกับนโยบาย Free Visa ให้กับนักท่องเที่ยวประเทศจีน และ คาซัคสถาน ที่รัฐบาลประกาศเริ่มบังคับใช้วันที่ 25 กันยายน 2566 การจัดงานครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวได้เจรจาจับคู่ธุรกิจ เชื่อมโยงมิติการท่องเที่ยวทุกด้าน โดยเฉพาะการนําเสนอแหล่งท่องเที่ยวสําคัญๆ ทั้ง 6 จังหวัดแถบอันดามัน ที่จะเป็นแม่แหล็ก ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เข้ามาพักผ่อนที่ประเทศไทย จากการคาดการณ์ของ สทท. ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จํานวนนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก ไตรมาสที่ 3 อย่างมีนัยยะสําคัญ สอดรับกับนโยบาย Free visa จีน และคาซัคสถาน มีโอกาสส่งผลให้จํานวนนักท่องเที่ยวกระเตื้องขึ้นและมีแนวโน้มตรงกับการคาดการณ์ของ สทท.เองที่คาดการณ์ว่า ปี 2566 นี้ จะมีจํานวนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ อยู่ที่ประมาณ 25-30 ล้านคน ซึ่งจะส่งผลให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีโอกาสเริ่มฟื้นตัว หลายๆภาคส่วนสถานการณ์กลับไปใกล้เคียงกับช่วงก่อนวิกฤติการณ์โรคระบาดโควิด-19สมาชิกสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยทั่วประเทศ ที่มาร่วมงานกว่า 500 คน จะได้ท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน แบบ exclusive สุดพิเศษ! เยี่ยมชมวิถีชีวิตชุมชนเมืองเก่าอย่างยั่งยืน แวะชม ธุรกิจฟาร์มมุก "ไข่มุกอันดามัน" สัญลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต และศึกษาดูงานท่าเทียบเรืออ่าวฉลองพร้อมร่วมกิจกรรม ล่องเรือยอร์ชชมพระอาทิตย์ตก ชมโชว์สุดพิเศษจาก Siam Niramit และโชว์อลังการ จากสาว ๆ LGBTQ+ Athena Cabaret Show เป็นต้น และจะเข้าร่วมงานเจรจาจับคู่ธุรกิจ ในงาน Andaman Tourism Networking 2023 ระหว่างวันที่ 7-8-9 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรม Royal Phuket City Hotel ชั้น 2 ซึ่งในวันที่ 8 ตุลาคม 2566 ได้รับเกียรติจาก นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นประธานเปิดงานในพิธี โดยมี นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตให้การต้อนรับ พร้อมเชิญผู้นําทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง สตูล นําเสนอแหล่งท่องเที่ยวสําคัญๆในจังหวัดของตนเอง นอกจากนี้นายพุทธา มากหลาย นายกสมาคมผู้บริหารงานช่างและพัฒนาฝีมือช่างภาคใต้ ประธานจัดงานกล่าวเพิ่มเติมว่า งานแสดงสินค้าเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 9 ตุลาคม 2566 ภายในงาน มีการออกบูธแสดงสินค้ามากกว่า 117 ราย ทั้งด้าน เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต เช่น หุ่นยนต์สําหรับงานบริการ เครื่องมือช่าง อุปกรณ์สําหรับงานด้านอาหาร และเครื่องดื่ม อุปกรณ์ตกแต่ง บ้าน และโรงแรม บูธบริษัททัวร์นําเที่ยวและสายการบิน ทั้งนี้ยังมีการแข่งขัน และการให้ความรู้ ในด้านงานฝีมือช่าง อาหาร และเครื่องดื่ม คาดว่ามีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่าวันละ 2000 รายนางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาท่องเที่ยวภูเก็ต กล่าวปิดท้ายว่า ต้องขอขอบคุณจังหวัดภูเก็ต, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท), สํานักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (TCEB), สํานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa), บริษัท คิงเพาเวอร์อินเตอร์เนชั่นแนลจํากัด , สมาคมท่องเที่ยวไทยจีน, เครือโรงแรมยูโทเปีย และทุกๆ สมาคมทุกภาคส่วนที่สนับสนุนงานนี้ อีกทั้งต้องขอบคุณไปยังสายการบินต่างๆ ที่มอบโปรโมชั่นจองตั๋วเครื่องบินราคาพิเศษและสิทธิโหลดน้ําหนักกระเป๋าฟรี สําหรับผู้มาร่วมงานทุกท่าน พร้อมเชิญชวนพ่อแม่พี่น้องชาวภูเก็ตและใกล้เคียง ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีต้อนรับแขกที่มาร่วมงาน และเตรียมตัวต้อนรับนักท่องเที่ยวที่กําลังจะเข้าสู่ช่วงเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวในเดือนตุลาคมนี้ด้วย
23/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923214259973
247,423
เริ่มแล้ว เทศกาลกุ้งสามน้ำ กินร้อย ปล่อยล้าน FAM Trip ตามเส้นทางการท่องเที่ยวมรดกทางการเกษตรโลก
วันนี้ (23 ก.ย.66) เวลา 14.00 น. นายฉัตรชัย อุสาหะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง เป็นประธานพิธีเปิดงานเทศกาลกุ้งสามน้ํา กินร้อย ปล่อยล้าน โดยมีหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัด ผู้นําท้องที่ ชาวบ้านในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรม ณ ตลาดน้ําทะเลน้อย อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ในการนี้ นายธานินทร์ ทองขโชค ประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง เข้าร่วมกิจกรรมด้วยจังหวัดพัทลุง โดยสํานักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดพัทลุง ร่วมกับสํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดพัทลุง สํานักงานเกษตรจังหวัดพัทลุง สํานักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดพัทลุง สํานักงานประมงจังหวัดพัทลุง สํานักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง สํานักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง เทศบาลตําบลทะเลน้อย เทศบาลตําบลพนางตุง และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย ขอเชิญชวนพี่น้องชาว จังหวัดพัทลุง และใกล้เคียง ร่วมงาน "เทศกาล กุ้งสามน้ํา กินร้อย ปล่อยล้าน" ระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ทั้งนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชน ในการเดินทางให้แก่นักท่องเที่ยวสําหรับบรรยากาศภายในงาน มีอาหารหลากหลายเมนู จากกุ้งสามน้ํา ซึ่งเป็นกุ้งธรรมชาติ มีแค่ที่จังหวัดพัทลุงที่เดียวเท่านั้น ผักผลไม้สดปลอดสารเคมี รวมทั้งผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นจังหวัดพัทลุง ที่คัดสรรมาให้ช็อป มากกว่า 20 ร้าน การแสดงศิลปวัฒนธรรมจากเยาวชน สนุกสนานกับกิจกรรมสินค้า นาทีทอง เล่นเกมส์ชิงรางวัล กิจกรรม Work Shop อัตลักษณ์จังหวัดพัทลุง การประกวดสํารับอาหารพื้นถิ่นจากกุ้งสามน้ํา และแจกคูปองส่วนลดภายในงาน ตลอดทั้งวัน เลือกช็อป เดินซิลล์ๆ ชิมของอร่อย แชะภาพสวยๆภายใต้ธีมตลาดน้ํา และร่วมกิจกรรม FAM Trip ตามเส้นทางการท่องเที่ยวมรดกทางการเกษตรโลก ชมนก ชมไม้ ชมควายปลัก และอื่นๆ อีกมากมาย
23/9/2023
ภาคใต้
พัทลุง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923220549974
247,424
ผู้กำกับการ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด ระบุโครงการที่พักสีขาวของจังหวัดภูเก็ตประสบความสำเร็จสามารถลดปัญหาอาชญากรรม และดูแลนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
ในการแถลงข่าวตามโครงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายสําคัญ ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (กิจกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดพบสื่อมวลชนสัญจร) เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมร้านไม้หมอน อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต โดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าว มีนายอํานวย พิณสุวรรณ ,นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา ,นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ,พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ,พันตํารวจเอก ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต,นายนรินทร์ สงสีจันทร์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สํานักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ,นางสาวสุนีย์รัตน์ รุจีมาศ รองผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานภูเก็ต,นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต,นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมพล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ในส่วนของการกวาดล้างอาชญากรรม ของจังหวัดภูเก็ต ตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต มีการดําเนินการโดยใช้ศูนย์ปฏิบัติการ 191 ในการเฝ้าระวังรับแจ้งเหตุ จากประชาชนและสามารถลงพื้นที่ในการช่วยเหลือดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดีด้านพันตํารวจเอก ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานข้อมูลความสําเร็จของโครงการที่พักสีขาว และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการฟรีวีซ่าสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ว่าเมื่อวันที่ 18 กันยายน 66 ได้มีการกําหนดรายชื่อประเทศฯ เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยว ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่ 25 ก.ย.66 ถึง 29 ก.พ.67 การกระตุ้น ศก. ที่เคยใช้1. สมัยนายกประยุทธ์ : ใช้การยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม แต่ต้องมายื่นคําร้องที่ ตม.สนามบิน หรือหน้าด่าน2. ให้วีซ่า TR15 โดยที่ไม่ต้องมาขอวีซ่าที่หน้าด่าน แต่ยังคงผ่านการตรวจระบบ BIO ก่อนเข้าเมือง3. (ปัจจุบัน) คล้ายๆ แบบที่2 แต่ให้สิทธิเป็น ผ.30 (ไทยให้ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น) ผ.30 : อยู่ได้ 30 วัน ต่อได้ครั้งเดียว 30 วัน (+ตีไล่ 7 วัน) และสามารถยื่นเปลี่ยนวีซ่า เพื่อขออยู่ต่อระยะยาวได้ด้วย โดย ข้อมูลภาพรวม / จีน / คาซัคสถาน ก่อนโควิด ปี 2018 เปรียบเทียบ ปี 2023 - จีน นักท่องเที่ยว 2018 = 2,193,967 คน นักท่องเที่ยว 2023 ( 1 ม.ค. - 21 ก.ย.23) = 377,830 คน ซึ่งปี 2023 น้อยลงกว่าปี 2018 คิดเป็น 83% ขออยู่ต่อ 2018 = 8,333 คน ขออยู่ต่อ 2023 = 2,898 คน ซึ่งปี 2023 น้อยลงกว่าปี 2018 คิดเป็น 66% - คาซัค นักท่องเที่ยว 2018 = 18,507 คน นักท่องเที่ยว 2023 ( 1 ม.ค. - 21 ก.ย.23) = 89,350 คน ซึ่งปี 2023 มากกว่าปี 2018 คิดเป็น 483% ขออยู่ต่อ 2018 = 363 คน ขออยู่ต่อ 2023 = 500 คน ซึ่งปี 2023 มากกว่าปี 2018 คิดเป็น 137.74%โดยภาพรวมโครงการที่พักสีขาวของจังหวัดภูเก็ตประสบความสําเร็จสามารถลดปัญหาอาชญากรรม และดูแลนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่
23/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924042500981
247,425
จังหวัดภูเก็ตว่า ได้รับรางวัล Best Parent- Child Destination Award ซึ่งเป็นสุดยอดรางวัลแหล่งท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว เป็นการการันตีถึงภาพรวมความปลอดภัย ด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ต
ในการแถลงข่าวตามโครงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่นโยบายสําคัญ ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต (กิจกรรมผู้ว่าราชการจังหวัดพบสื่อมวลชนสัญจร) เมื่อวันที่ 22กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมร้านไม้หมอน อําเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ตโดยมีนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการแถลงข่าว มีนายอํานวย พิณสุวรรณ ,นายอานุภาพ รอดขวัญ ยอดระบํา ,นายดนัย สุนันทารอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ,พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผู้บังคับการตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ,พันตํารวจเอก ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต,นายนรินทร์ สงสีจันทร์ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาและส่งเสริมอาชีพการประมง สํานักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ,นางสาวสุนีย์รัตน์ รุจีมาศ รองผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานภูเก็ต,นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม ประธานที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต,นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐและเอกชน และสื่อมวลชน เข้าร่วมนางสาวสุนีย์รัตน์ รุจีมาศ รองผู้อํานวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานภูเก็ต กล่าวถึง สถานการณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตว่า เป็นที่น่ายินดีที่จังหวัดภูเก็ต เพิ่งได้รับรางวัล Best Parent- Child Destination Award โดยวันที่ 21 กันยายน 2566 นิตยสาร Travel & Leisure ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้จัดงานประกาศรางวัล 2023 World Leisure Awards ขึ้น ณ Bibo island, Jinhai Lake, Pinggu district กรุงปักกิ่ง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยการจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 20 ได้มีการคัดสรรแหล่งท่องเที่ยวที่ดีเด่นจากทั่วโลก เพื่อประกาศรางวัลสุดยอดแหล่งท่องเที่ยว ในแต่ละประเภท ซึ่งทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สํานักงานปักกิ่ง ได้นําเสนอแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศไทย เข้าร่วมการพิจารณาด้วยนั้นในครั้งนี้ จังหวัดภูเก็ต ได้รับการพิจารณาคัดเลือกจากคณะกรรมการ ให้ได้รับรางวัล Best Parent- Child Destination Award ซึ่งเป็นสุดยอดรางวัลแหล่งท่องเที่ยวสําหรับครอบครัว การได้รับรางวัลในครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ําว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความปลอดภัย และ มีความสวยงาม เหมาะสําหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว โดยรางวัลดังกล่าว จะเป็นการสร้างความมั่นใจ และตอกย้ําภาพลักษณ์ในด้านความปลอดภัย และความสวยงาม แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวชาวจีน ให้ตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต และ ประเทศไทย เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอนนอกจากนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสํานักงานภูเก็ตยังได้เตรียมความพร้อมส่งเสริมกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงประเพณีถือศีลกินผัก 2566 โดยได้จัดทํา คู่มือออนไลน์ ประเพณีถือศีลกินผัก 2566 นับเวลาถอยหลังเข้าสู่ประเพณีที่นักท่องเที่ยวและคนภูเก็ตต่างรอคอย ปีละครั้งเท่านั้น แอดรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว ตารางพิธีกรรม ขบวนแห่อ๊าม(ศาลเจ้า) ในภูเก็ตกว่า 30 อ๊าม พิกัดศาลเจ้าในภูเก็ต ประวัติความเป็นมา พิธีอิ้วเก้ง (แห่พระ) พิธีโก้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์) พิธีโก้ยโห้ย (ลุยไฟ) พิธีองค์กิ้วอ๋องไต่เต่ (ส่งพระ) แผนที่เส้นทางแห่พระตารางพิธีกรรม : https://www.phuketemagazine.com/phuket-vegetarian-2023/ตารางพิธีกรรม/ แผ่นพับข้อมูลประเพณี : https://www.phuketemagazine.com/phuket-vegetarian-2023/แผ่นพับข้อมูลงานประเพณ/ https://www.facebook.com/100064505419825/posts/pfbid02awWt4pgfQ8ifkte88X3aZPFqNcjUAJ5HHkxjxmkABis4d5HdT7wGEpkghUrKro7Tl/?mibextid=cr9u03#TAT #รีวิวภูเก็ต #tatphuket #amzingthailand #vegeterianfestival2023 #เทศกาลถือศีลกินผัก #กินเจโดยคาดการณ์ว่าในช่วงประเพณีถือศีลกินผักจะมีนักท่องเที่ยว ชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น อย่างแน่นอน
23/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924040218979
247,426
อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดเสวนาขับเคลื่อนวิถีชีวิต "โขง ชี มูล" พัฒนาต่อยอดมรดกภูมิปัญญาสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์
วันนี้ (23 ก.ย.66) ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ อําเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดการประชุมเสวนาลุ่มน้ําโขง ชี มูล สภาวัฒนธรรม จ.ศรีสะเกษ และสภาวัฒนธรรม จ.อุบลราชธานี เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ประสบการณ์และความคิดเห็นในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู จารีตประเพณีภูมิปัญญาท้องถิ่นของ จ.ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี พร้อมบรรยายพิเศษแนวทางการดําเนินงานของกรมส่งเสริมวัฒนธรรม โดยมี นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับ นายกิตติพงษ์ เทียมสุวรรณ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวรายงาน นายรัฐวิทย์ประธานหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ คณะกรรมสภาวัฒนธรรม และภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม ทั้ง 2 จังหวัดเข้าร่วม สําหรับการจัดการประชุมเสวนาในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงเครือข่ายทางวัฒนธรรมของสองจังหวัดที่เป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนงานวัฒนธรรมในการนําเอามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม วิถีชีวิตลุ่มเเม่น้ําโขง ชี มูล มาพัฒนาต่อยอดด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้เกิดมูลค่าทางสังคมเเละเศรษฐกิจ โดยร่วมฟังการเสวนา เรื่อง เเนวทางการขับเคลื่อนสภาวัฒนธรรมสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ จากนั้นเยี่ยมชมนิทรรศการอาหารและอาภรณ์
23/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923231223977
247,427
หนองคาย ถนนคนเดินคึกคักจัดกิจกรรมลานวัฒนธรรม เสริม
ตลาดแคมของหรือถนนคนเดินริมโขง กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังไม่มีฝนตก มีนักท่องเที่ยวมาจับจ่ายซื้อสินค้า พักผ่อน รับประทานอาหาร และถ่ายรูปกันเป็นจํานวนมาก Giant Tree & River Walk ต้นไม้ยักษ์จุดชมวิวริมแม่น้ําโขงมุมสูง ก็ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศสบายชมวิวมุมสูงบน Giant Tree & River Walk และถ่ายรูปกันอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จังหวัดหนองคาย ได้จัดให้มีกิจกรรม “ลานวัฒนธรรม ลานเยาวชน เสริมสร้างศักยภาพคนหนองคาย” เสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวยามค่ําคืนของวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่จังหวัดหนองคาย คึกคักกว่าหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีฝนตก ที่คึกคักก็ยังเป็นที่ตลาดแคมของ หรือ walking street ถนนคนเดินริมโขง แหล่งท่องเที่ยวยามค่ําคืนเพียงแห่งเดียว ที่อยู่ในความดูแลของเทศบาลเมืองหนองคาย เปิดเฉพาะในวันเสาร์ เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.- 22.00 น. เริ่มจากบริเวณถนนริมเขื่อนป้องกันตลิ่ง จากท่าเรือหายโศก จนถึงตลาดท่าเสด็จ ระยะทางกว่า 700 เมตรวันนี้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ออกมาเดินจับจ่ายซื้อหาสินค้า พักผ่อนคลายร้อน รับประทานอาหาร และถ่ายรูปกับทิวทัศน์ริมฝั่งโขงยามเย็นและยามค่ําคืน ร้านค้าที่หยุดขายไปหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้เนื่องจากฝนตกก็กลับมาขายอีกครั้ง ประกอบกับในวันนี้จังหวัดหนองคาย โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย ร่วมกับชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดหนองคาย ได้จัดให้มี กิจกรรม “ลานวัฒนธรรม ลานเยาวชน เสริมสร้างศักยภาพคนหนองคาย” เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลป์ยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ มีนายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคายเป็นประธานในพิธีเปิดฯ และนายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกอบจ.หนองคาย กล่าวรายงาน ซึ่งกิจกรรมฯที่จัดให้มีขึ้นครั้งนี้ เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรําลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย ส่วน Giant Tree & River Walk ต้นไม้ยักษ์จุดชมวิวริมแม่น้ําโขงมุมสูง จุดเช็คอินจุดหนึ่งของจังหวัดหนองคาย ที่หนึ่งในสองแห่งอยู่ภายในบริเวณถนนคนเดินริมโขง ก็ยังคงได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวขึ้นไปสัมผัสอากาศสบาย ชมวิวมุมสูงบน Giant Tree & River Walk และถ่ายรูปที่ระลึกที่มีฉากหลังเป็นตลาดแคมของ ฉากหลังที่เป็นแม่น้ําโขงในยามพระอาทิตย์ตกดิน ยามค่ําคืน และฝั่ง สปป.ลาว ก่อนจะส่งต่อเข้าในโลกโซเชียลต่อไป.
23/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หนองคาย
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดหนองคาย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923230137975
247,428
เทศบาลตำบลเมืองยวมใต้ จัดเวทีเสวนา “ก้าวต่อไป พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง” ระดมความคิดเห็นปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต
วันนี้ (23 ก.ย.66) เวลา 17.30 น. ที่ข่วงวัฒนธรรมเมืองยวมใต้ พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เทศบาลตําบลเมืองยวมใต้ ร่วมกับวิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน หน่วยจัดการศึกษาอําเภอแม่สะเรียง จัดเวทีระดมความคิดเห็น กําหนดทิศทางการพัฒนาพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง เวทีเสวนา “ก้าวต่อไป พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง” เพื่อระดมความคิดเห็นในการปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตของคนแม่สะเรียงโดยมี นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอําเภอแม่สะเรียง เป็นประธานในพิธีเปิดการเสวนา “ก้าวต่อไป พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง” นายวิชัย กองแก้ว นายกเทศมนตรีตําบลเมืองยวมใต้ รายงานความก้าวหน้าการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ มีผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ เข้าร่วมเวทีเสวนา ได้แก่ ตัวแทนชุมชน/ ร้านค้า ผู้แทนชาติพันธุ์ ผู้แทนศาสนา ผู้แทนสถานศึกษาที่เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอําเภอแม่สะเรียง และผู้แทนภาคประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมเทศบาลตําบลเมืองยวมใต้ ได้รับงบประมาณจากยุทธศาสตร์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นจํานวนเงิน 10,990,000 บาทเฉพาะตัวอาคาร ซึ่งยังขาดงบประมาณในการปรับปรุง ห้องจัดแสดงนิทรรศการ วิถีชนเผ่าต่าง ๆ ในแม่สะเรียง สืบเนื่องจาก เรื่องการขอรับการสนับสนุนเงินงบประมาณในครั้งนี้ ต้องดําเนินการจัดทําการประชาพิจารณ์ เพื่อประกอบการขอรับการสนับสนุนงบประมาณนอกจากนี้ การจัดเวทีเสวนาดังกล่าว เพื่อปรับปรุงพิพิธภัณฑ์แม่สะเรียง ให้เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ประวัติศาสตร์ ความเป็นมา วิถีชีวิต ภูมิปัญญาของคนในท้องถิ่น รักษาไว้ให้คงอยู่ ให้พิพิธภัณฑ์แม่สะเรียงเป็นแหล่งสร้างความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์วัฒนธรรมของท้องถิ่น เป็นแหล่งเรียนรู้สําหรับชุมชน และเป็นคลังปัญญาของคนในท้องถิ่น และผู้สนใจทั่วไป ภายในงานมีกาดหมั้วครัวฮอม ชิมอาหารประจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน ข้าวส้ม ยําผัก (โถ่โก้) ขนมจีนน้ําหยวก ขางปอง ข้าวเบอะ ข้าวกันจิ้น สะเบือก อาละหว่า และน้ําสมุนไพร
23/9/2023
ภาคเหนือ
แม่ฮ่องสอน
สวท.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923230507976
247,429
อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เปิดถนนสายวัฒนธรรมสานวิถีสี่เผ่าไทศรีสะเกษ
วันที่ 23 กันยายน 2566 ถนนคนเดินศรีสะเกษ มารี -หนองแคน อําเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ นายโกวิท ผกามาศ อธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดกิจกรรมตลาดวัฒนธรรม ถนนสายวัฒนธรรม สืบสานมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม "สี่เผ่าไทศรีสะเกษ" เพื่อสืบสาน ต่อยอด สร้างมูลค่าทางสังคมเเละเศรษฐกิจ โดยมีนายนพ พงศ์ผลาดิสัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต้อนรับ นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวรายงาน นายกิตติพงษ์ เทียมสุวรรณ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดอุบลราชธานี นายประหยัด ถิลา วัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ และภาคีเครือข่ายทางวัฒนธรรม ร่วมในพิธีนายวิทยา วิรารัตน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษ เป็นจังหวัดที่มีทุนทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย มีความโดดเด่นในเรื่องศิลปะ วัฒนธรรม มีกลุ่มชาติพันธุ์ 4 ชนเผ่า คือ เขมร กูย ลาว และเยอ ซึ่งมีเอกลักษณ์วัฒนธรรมของตนเอง โดยสภาวัฒนธรรมจังหวัดศรีสะเกษ ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนําวิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น มาจัดแสดงถือเป็นการสืบสาน รักษา ต่อยอดมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดศรีสะเกษ ส่งเสริมให้มีการนําทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ โดยการเปิดพื้นที่จัดแสดงและจําหน่ายสินค้าวัฒนธรรมสินค้าของชุมชน ตลอดจนส่งเสริมการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในพื้นที่สนับสนุนให้ประชาชนมีอาชีพเสริม เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ มีการพัฒนาศักยภาพของสินค้าผลิตภัณฑ์และบริการด้วยความคิดสร้างสรรค์ ส่งเสริมให้ประชาชนอยู่ดีกินดีด้วยวิถีวัฒนธรรม
23/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230923234224978
247,430
ยโสธร จัดโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนแบบครบวงจร
เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. นายวิรุจ วิชัยบุญ ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนแบบครบวงจร กิจกรรมย่อย : การพัฒนาแผนการจัดการและยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชน สู่การตลาดการ ท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน โดยมีนายอนันต์ อุดมศิลป์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดยโสธร หัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบการ ร่วมงาน ณ ห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัสยโสธร จังหวัดยโสธรทั้งนี้ เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวโดยชุมชนให้มีโอกาสขยายตัวด้านการตลาดที่หลากหลายและสูงขึ้น เป็นการสร้างรายได้แก่ชุมชน โดยภายในงานได้มีการจัดบูธแสดงวิถีชุมชนท่องเที่ยว จํานวน 3 วัน คือระหว่างวันที่ 22-24 กันยายน 2566 เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่สนใจได้รู้จักเส้นทางท่องเที่ยว วิถีวัฒนธรรม อาหารพื้นถิ่น สินค้าโอทอป และ สินค้าทางการเกษตร อันเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้ายการท่องเที่ยว การจับจ่ายซื้อสินค้า สร้างรายได้แก่ชมชนต่อไป
24/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ยโสธร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924065654986
247,431
วันแรกของการจัดงาน OTOP Midyear 2023 ประชาชนสนใจร่วมงานอย่างคับคั่ง เงินสะพัดกว่า 51 ล้านบาท
นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงตัวเลขการจัดจําหน่ายสินค้าภายในงาน OTOP Midyear 2023 เมื่อวาน (23 ก.ย.66) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานรวมทั้งสิ้นกว่า 16,000 คน และมียอดการจําหน่ายและสั่งซื้อสินค้า รวมทั้งสิ้นกว่า 51 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดจําหน่ายกว่า 48.1 ล้านบาท และยอดสั่งซื้ออีกกว่า 2.5 ล้านบาท ถือเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นที่ดีที่ประเทศไทยจะได้แสดงให้ชาวไทยและชาวต่างชาติได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP และช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่างๆ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งเป็นการเพิ่มช่องทางการจําหน่ายสินค้า OTOP และผลิตภัณฑ์ของชุมชน ให้ประชาชนสามารถเลือกซื้อสินค้าชุมชนที่ดีที่สุดจากฝีมือคนไทย ทั้งยังกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น ตามนโยบายสําคัญของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการเร่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ โดยการส่งเสริมเศรษฐกิจฐานราก การผลิต การตลาดและการจําหน่าย พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนทั้งในระดับครัวเรือนและระดับชุมชน รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชนตามอัตลักษณ์ที่โดดเด่น (OTOP) และนําหลักการ "ตลาดนํา นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้" มาเป็นแนวทางในการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้กับประชาชน ตามแนวทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในปีนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าร่วมจําหน่าย ภายในงานทั้งสิ้น 1,670 ราย และมีประชาชนให้ความสนใจเข้าร่วมงานอย่างคึกคัก โดยภายในงานมีกิจกรรมที่มีความหลากหลาย ประกอบด้วย โซนนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โซน OTOP Trader จังหวัดและประเทศไทย ที่ได้จัดสรรพื้นที่ในรูปแบบ Open Area เพื่อจัดแสดงผลงานและจัดหาช่องทางทางการตลาดให้แก่สินค้า OTOP ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ โซนแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP 3 – 5 ดาว ที่ผ่านการคัดสรรรสุดยอดหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ประจําปี พ.ศ. 2565 กว่า 1,200 บูธ และโซนโอทอปชวนซิม มากกว่า 160 ร้านค้าจากทั่วประเทศ และที่พลาดไม่ได้สําหรับไฮไลต์สําคัญของงานนี้คือ โซนศิลปิน OTOP ที่ได้จัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์จากศิลปิน OTOP กว่า 40 ราย ที่อนุรักษ์และสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น โซนชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถี โซนผ้าไทยใส่ให้สนุกและ First Lady อีกทั้งยังมีโซนพิเศษภายในงานอีกมากมาย นอกจากนี้ ยังมีมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง มาร่วมสร้างความบันเทิงอย่างคับคั่ง รวมถึงการจับสลากรางวัลชิงโชค ไม่น้อยกว่า 20 รางวัล และในวันสุดท้ายของการจัดงานร่วมลุ้นรับรางวัลใหญ่ทองคํา มูลค่ากว่า 200,000 บาทสําหรับผู้ที่สนใจสามารถร่วมสนับสนุนสินค้าจากผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในงาน OTOP Midyear 2023 ได้ตั้งแต่วันนี้ – 1 ตุลาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.- 21.00 น. ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 – 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี และสามารถติดตามข่าวสารและกิจกรรมภายในงานได้ทาง Facebook Fanpage : กรมการพัฒนาชุมชน หรือ OTOP TODAY OTOP Midyear 2023
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924151645029
247,432
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง จัด "กิจกรรมเชื่อมโยงการจำหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค" รอบที่ 2
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง กําหนดจัด "กิจกรรมเชื่อมโยงการจําหน่ายไข่ไก่ เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้ผู้บริโภค" รอบที่ 2 พร้อมเชิญชวนประชาชนเลือกซื้อ “ไข่ไก่ เบอร์ 2 (30 ฟอง/แผง)” ในราคาแผงละ 115 บาท เท่านั้น (จํากัดการซื้อ คนละ 1 แผง) โดย จุดที่ 1 จําหน่าย ณ บริเวณหน้าสํานักงานพาณิชย์จังหวัดตรัง และ จุดที่ 2 ณ บริเวณหน้าวัดควนขัน อ.เมืองตรัง ในระหว่างวันที่ 26-27 กันยายน 2566 เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป หรือจนกว่าสินค้าหมดทั้งนี้ เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพและเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน โดยในภาพรวม ไข่ไก่ในพื้นที่จังหวัดตรัง มีปริมาณเพียงพอกับความต้องการบริโภคในจังหวัด และส่งจําหน่ายยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย
24/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924094744000
247,433
คูคลองน้ำใส เยาวชนร่วมใจ เทิดไท้องค์ราชัน ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของแม่น้ำคูคลอง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงาน "คูคลองน้ําใส เยาวชนร่วมใจ เทิดไท้องค์ราชัน ประจําปี 2566" ณ ตลาดน้ําขวัญเรียม ว่า การจัดงานครั้งนี้เพื่อส่งเสริมและพัฒนาให้สภาพชุมชนริมคลองและสภาพน้ําในคลองแสนแสบสะอาดขึ้น ส่งเสริมให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสําคัญของแม่น้ําคูคลองและแหล่งน้ําอื่นๆ ให้กลับมาใสสะอาดปราศจากมลพิษ ซึ่งถือเป็นคูคลองที่ประชาชนในชุมชนใช้ประโยชน์ได้มากมาย ทั้งการติดต่อทางด้านคมนาคม ด้านการอุปโภคบริโภค เป็นแหล่งรองรับน้ําฝนเพื่อการเกษตรและอุตสาหกรรม นอกจากนี้ แม่น้ําคูคลอง ยังเป็นแหล่งวัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณี รัฐบาลจึงมีนโยบายในการส่งเสริมและเร่งฟื้นฟูความสําคัญของดินและน้ําคืนสู่ธรรมชาติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า งานนี้ครั้งนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความคิดสร้างสรรค์ มีการให้ความรู้ที่ถูกต้องในการอนุรักษ์คูคลอง เป็นตัวอย่างของชุมชนเข้มแข็ง มีมูลนิธิ ชุมชน วัด ร่วมกันทํากิจกรรมอนุรักษ์คูคลอง ซึ่งอนาคตจะสามารถพัฒนาคูคลองเป็นแหล่งเศรษฐกิจได้ สามารถกระจายรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924151406026
247,434
มาแล้วปลาน้ำหลากราคาถูก ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาจังหวัดชัยนาทลดการระบาย
บรรยากาศการซื้อขายปลาแม่น้ําที่ตลาดบางกระเบื้อง(วันอาทิตย์) ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท (ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา) ประชาชนให้ความสนใจจับจ่ายซื้อปลา ที่ชาวประมงจับขึ้นมาขายเป็นจํานวนมากหลังจากเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มการระบายน้ําอย่างต่อเนื่อง มีทั้งปลาสวายแม่น้ํา ปลาเทโพ ปลาลึง ปลาสังกะวาด พ่อค้าแม่ค้านํามาขายในราคาถูกกว่าช่วงปกติป้าอี๊ด แม่ค้าขายปลา ตลาดบางกระเบื้อง เปิดเผยว่า ปีนี้มีปลาที่ชาวประมงจับในช่วงน้ําหลาก มาส่งให้มีจํานวนมากไม่ต่างจากปีที่ผ่านมา แต่การซื้อของลูกค้าลดลง อาจเป็นเพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนไม่ค่อยมีเงินมาซื้อของ ซึ่งราคาปลาช่วงน้ําหลากจะถูกกว่าช่วงเวลาปกติ เช่น ปลาเทโพ 70-80 บาท ปลาสวาย 25-30 บาท ปลาลึง 80-100 บาท ปลาค้าว 180-200บาท ปลาสังกะวาด 70-100 บาทขณะที่ สถานการณ์แม่น้ําเจ้าพระยา วันนี้ (24 ก.ย.66) เริ่มลดลง น้ําไหลผ่านสถานีวัดน้ํา C2 จ.นครสวรรค์ 1,225 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ําเหนือเขื่อนเจ้าพระยา อยู่ที่ระดับ 16.80 เมตร (รทก )น้ําระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 793 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดลงจากเมื่อวาน(898) 105 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
ชัยนาท
สวท.ชัยนาท
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924102257002
247,435
ท่าอากาศยานไทย บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมการรองรับผู้โดยสารตามนโยบาย Visa Free ของรัฐบาล
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นวันแรกที่มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของไทยภายใต้นโยบายยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทาง หรือเอกสารเดินทางจีนและคาซัคสถาน (Visa Free) เริ่มมีผลบังคับใช้เป็นกรณีพิเศษ และเป็นการชั่วคราว ไปจนถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 รวมระยะเวลา 5 เดือน เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและความเชื่อมโยงระดับประชาชน รวมทั้งมิติความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับสาธารณรัฐประชาชนจีนและสาธารณรัฐคาซัคสถาน คาดว่าในช่วง 7 วันแรกของมาตรการดังกล่าว ระหว่างวันที่ 25 กันยายน – 1 ตุลาคม 2566 จะมีเที่ยวบินรวม 674 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ย 96 เที่ยวบินต่อ จากปัจจุบันเฉลี่ย 72 เที่ยวบินต่อวัน รวมถึงปริมาณผู้โดยสารจากเที่ยวบินจีนรวม 130,593 คน เฉลี่ย 18,656 คนต่อวัน ขณะที่เที่ยวบินจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน คาดว่าในช่วง 7 วันแรกรวม 6 เที่ยวบิน จํานวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 1,338 คน จาก 853 คน ทอท. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งจัดตารางการบิน การอํานวยความสะดวกขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง การตรวจค้นสัมภาระและการจัดสิ่งอํานวยความสะดวกรองรับผู้โดยสารชาวจีนและคาซัคสถานที่จะเดินทางมายังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)ด้านนายณพศิษฏ์ จักรพิทักษ์ กรรมการผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จํากัด เปิดเผยว่า บวท. ขานรับนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถรองรับ ได้ดําเนินการปรับปรุงเส้นทางบินและห้วงอากาศเชื่อมต่อ 3 สนามบิน สุวรรณภูมิ ดอนเมือง อู่ตะเภา เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบินของทั้ง 3 สนามบิน ในขณะเดียวกันวิทยุการบินฯ อยู่ระหว่างปรับปรุงเส้นทางบินจากดอนเมืองและสุวรรณภูมิ ไปทางเหนือคือ เชียงใหม่และเชียงราย เป็นเส้นทางบินแบบคู่ขนาน ซึ่งจากเดิมเป็นเส้นทางเดียวบินสวนกันแบบต่างระดับ จะทําให้ลดจุดร่วม จุดตัด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับเที่ยวบิน รวมทั้งได้นําแนวทางปฏิบัติด้านการบริหารจัดการความคล่องตัว (Air Traffic Flow Management: ATFM) และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานทางวิ่ง (High Intensity Runway Operation: HIRO) มาใช้ในการบริหารจัดการจราจรทางอากาศ ซึ่งจะทําให้รองรับเที่ยวบินได้มากขึ้น
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924152151037
247,436
คณะคาราวาน "หรอยแรง..ล่องใต้" ล่องใต้ ทัวร์ท่องเที่ยวชุมชนที่พังงา
นายอุทิศ ลิ่มสกุล ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)สํานักงานพังงา พร้อมด้วยกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านคลองบ่อแสนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอู่ข้าวอู่น้ํานาหัวนอน(โรงสีปู่เจ้า) นําขนมบัวลอยลูกชกและน้ําสมุนไพรในกระบอกไม้ไผ่ ร่วมต้อนรับนายสมชาย ชมภูน้อย ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ภูมิภาคภาคใต้ ที่นําคณะคาราวานหรอยแรง...ล่องใต้ ซึ่งประกอบด้วยผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากส่วนกลางและภาคใต้ เดินทางเยี่ยมชมสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวใน 14 จังหวัดภาคใต้ระหว่างวันที่ 15-26 กันยายน 2566 โดยคณะได้แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกับจุดเช็กอินสตรีทอาร์ตน้องมาร์ดี ที่ตลาดกระโสม ก่อนจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดภูเก็ตและจะเดินทางกลับมาเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนในจังหวัดพังงานายสมชาย ชมภูน้อย เปิดเผยว่า กิจกรรมหรอยแรง...ล่องใต้ ประจําปี 2566 จัดขึ้นตามโครงการ เที่ยวใต้เที่ยวง่ายหรอยแรงได้ทั้งปี โดยจัดกิจกรรมคาราวาน เส้นทางกรุงเทพมหานครสู่ 14 จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 15-26 กันยายน 2566 ใน 12 วัน 11 คืน เพื่อส่งเสริมการขายสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในภูมิภาค ในรูปแบบคาราวาน โดยเปิดโอกาสให้กลุ่มบริษัทนําเที่ยว สมาคมสมาพันธ์ธุรกิจการท่องเที่ยว ได้ร่วมแลกเปลี่ยนทริปท่องเที่ยวที่ดีๆ ในแต่ละพื้นที่ เป็นการเชื่อมโยงด้านการท่องเที่ยวในโอกาสต่อไป ซึ่งจะช่วยในการผลักดัน ต่อยอดให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยว และกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่มีความชื่นชอบในทุกไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ ให้เข้ามาสร้างสรรค์ประสบการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง ตามคอนเซ็ปต์ภาคใต้ 14 จังหวัด 14 สไตล์ในจุดขายต่างกัน 24 ชั่วโมงที่หาความสุขได้ในภาคใต้ และภาคใต้ ไม่มีช่วงโลซีซั่น ในการท่องเที่ยว สามารถหรอยได้ทุกเดือน 365 วัน จึงเป็นที่มาของ 14-24-365 “หรอยแรง ล่องใต้”
24/9/2023
ภาคใต้
พังงา
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพังงา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924122545011
247,437
โครงการธงฟ้า ลดต้นทุนและคงที่ราคาตามมาตรฐาน ช่วยเหลือประชาชนรายย่อย
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการธงฟ้าเป็นนโยบายและกิจกรรมของกระทรวงพาณิชย์ เกี่ยวกับเรื่องการลดราคาสินค้า หลังต้นทุนหรือโลจิสติกส์ลดลง โดยจะมีการคํานวณต้นทุนทั้งหมด แม้จะไม่สามารถลดราคาสินค้าได้หมดก็ตาม โดยเฉพาะสินค้าที่อยู่ในชีวิตประจําวันของประชาชน สิ่งไหนลดได้ลดทันที สิ่งไหนที่ลดไม่ได้จะพยายามตรึงราคาไว้และจะติดตามผลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบตามมา ทั้งนี้โครงการนี้ ต้องการเพิ่มปริมาณสินค้าให้มากขึ้นและครอบคลุมกับการใช้ในชีวิตของประชาชน อาทิ ข้าวสาร ไข่ น้ํามัน นม อาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป รวมไปถึงเครื่องอุปโภคบริโภค จะเห็นว่าราคาต่างๆ ลดลง แต่ว่าไม่ได้อยู่ในราคามาตรฐานเดียวกัน ขึ้นอยู่กับต้นทุนสินค้าต่างๆ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ และสําหรับโครงการดังกล่าวจะออกไปเคลื่อนไหวพบกับประชาชนให้ได้มากที่สุด ในกรุงเทพฯ วันละ 100 จุด เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยังกล่าวถึงเรื่องเงินดิจิทัล 10,000 บาทว่า ขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการอย่ากังวลเรื่องเก็บภาษี เนื่องจากเป้าหมายหลักของนโยบายนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเท่านั้น หากเศรษฐกิจดีก็จะมีชีวิตที่ดีขึ้น การใช้จ่ายจะดีขึ้น รวมถึงการจ้างงานการปฏิบัติงานต่างๆ ก็จะสามารถหารายได้เพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการรายเล็กก็จะได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจด้วย
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924152449044
247,438
สินค้า OTOP จังหวัดแพร่ ร่วมจำหน่ายในงาน OTOP MIDYEAR 2023 ได้รับการตอบรับวันแรกเป็นอย่างดี ทำรายได้ให้ผู้ประกอบการแล้วเกือบครึ่งล้าน
นายวีรกานต์ บุญตัน พัฒนาการจังหวัดแพร่ เปิดเผยว่า สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดแพร่ได้นําผู้ประกอบการ OTOP ร่วมจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าในงาน OTOP MIDYEAR 2023 “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” ซึ่งจัดขึ้นโดยกรมการพัฒนาชุมชน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน-1 ตุลาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด จัดแสดงและจําหน่ายสินค้าหนึ่งตําบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงสร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP แก่ผู้ประกอบการให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าโดยมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดแพร่ เข้าร่วมจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าในงานฯ จํานวน 27 บูธ ประกอบด้วย ผู้ประกอบการ OTOP 3-5 ดาว จํานวน 25 บูธ ผู้ประกอบการ ศิลปิน OTOP จํานวน 1 บูธ และผู้ประกอบการกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จํานวน 1 บูธ ซึ่งสินค้า OTOP ของจังหวัดแพร่ได้รับความสนใจจากผู้เยี่ยมชมงานเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นสินค้าที่มีผู้เลือกซื้อมากที่สุด และในการจัดจําหน่ายวันแรกสามารถทํารายได้ให้ผู้ประกอบการ รวม 489,658 บาท
24/9/2023
ภาคเหนือ
แพร่
สวท.แพร่
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924142540022
247,439
รมต.สุริยะ ลงพื้นที่สกลนคร ติดตามการแก้ไขปัญหาสะพานทรุดตัว บนเส้นทางหมายเลข 2229 เขต ต.กุดเรือคำ อ.วานรนิวาส กับ อ.บ้านม่วง
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร รับฟังปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม ติดตามการแก้ไขปัญหาสะพานทรุดตัว บนเส้นทางหมายเลข 2229 เขต ต.กุดเรือคํา อ.วานรนิวาส กับ อ.บ้านม่วงวันนี้ (24 ก.ย. 66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดร.มนพร เจริญศรีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ส.ส. เขต 2 นครพนม พรรคเพื่อไทย นายเกษม อุประ ส.ส.เขต 7 สกลนคร และนางสาวสกุณา สาระนันท์ ส.ส.เขต 6 สกลนคร พรรคเพื่อไทย โดยมีนายชยุต วงศ์วณิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม ข้าราชการ เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ อําเภอบ้านม่วง อําเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร เพื่อทราบปัญหาความเดือดร้อนเกี่ยวกับงานภายใต้การดูแลของกระทรวงคมนาคม ขณะเดียวกัน นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และคณะ ยังได้ติดตามการเร่งรัดแก้ไขปัญหาสะพานทรุดตัว บนเส้นทางหมายเลข 2229 เขต ตําบลกุดเรือคํา อําเภอวานรนิวาส กับ อําเภอบ้านม่วง ซึ่งอยู่ระหว่างการซ่อมแซม กระทบการสัญจร คมนาคมและการขนส่งทางหลวงหมายเลข 2229 ตอนควบคุม 0100 ตอน กุดเรือคํา -บ้านม่วง กม.เริ่มต้น 0+000 - กม.สิ้นสุด 13+830 อยู่ในความควบคุมของแขวงทางหลวงบึงกาฬเริ่มจากทางหลวงสาย อุดรธานี - สกลนคร (ทล.2091) บริเวณ อําเภอวานรนิวาส ที่ กม.49+722 มาตรฐานชั้นทาง 4 (7/9) มีระยะทางตลอดทั้งสาย 13.830 กิโลเมตร รับโอนจาก แขวงทางหลวงสกสนครที่ 2 (สว่างแดนดิน) ปริมาณการจราจรจะมีรถวิ่งประมาณ 2,585 คัน/วัน รถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งวันละ 292 คัน/วัน มาตรฐานชั้นทาง 4 (7/9) ผิวทาง AC กว้าง 7.00 ม. ไหล่ทาง AC กว้างข้างละ 100 ม. เขตทางกว้างข้างละ 5.80 - 20.00 ม. โดยเป็นเส้นทางการจราจรสายหลัก ระหว่างอําเภอบ้านม่วงกับอําเภอวานรนิวาส ปัจจุบันมีสะพานการทรุดตัว และอยู่ระหว่างดําเนินการซ่อมแซมแก้ไข
24/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สกลนคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสกลนคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924152307039
247,440
ททท. ร่วมกับ สบร. ยกระดับบุคลากรฯ ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้
วันที่ 24 กันยายน 2566 นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อานวยการสานักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) (สบร.) และนายวินิจ รังผึ้ง ผู้อํานวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาด้านการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การส่งเสริม กระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้” (Knowledge – based Tourism) ณ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ศูนย์การศึกษานอกที่ตั้งลําปางการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมต่อยอดจากการจัดทําบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการการส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้สร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based - Tourism) เพื่อร่วมกันส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงความรู้ ให้กับแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ ยกระดับบุคลากรภายในแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ให้สามารถจัดกระบวนการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีและแปลกใหม่ให้กับนักท่องเที่ยวภายใต้ความร่วมมือดังกล่าว ททท. และ สบร. ได้ร่วมกันจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ในรูปแบบการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based - Tourism)” ในพื้นที่จังหวัดลําปาง ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน 2566 เพื่อส่งเสริมและพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้มีทักษะในการออกแบบการเรียนรู้ที่น่าสนใจ นําไปสู่การเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการท่องเที่ยวเชิงความรู้ (Knowledge based – Tourism) ต่อไปนางสาวยุรีพรรณ แสนใจยา ผู้อํานวยการ ททท. สํานักงานลําปาง กล่าวว่า การอบรมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว มีกิจกรรมถอดความรู้ กิจกรรมเติมความรู้ในหัวข้อที่เกี่ยวกับสมรรถนะของมัคคุเทศก์ท้องถิ่น แนวคิดการออกแบบกิจกรรมสร้างสรรค์ แนวคิดการออกแบบเส้นทางความรู้ที่เชื่อมโยงกับบริบทชุมชน กิจกรรมออกแบบเส้นทางความรู้ กิจกรรมเชื่อมโยงความรู้ และการเยี่ยมชมแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ในเมืองลําปาง ตาม concept เมืองแห่งมนต์เสน่ห์ของการการท่องเที่ยวที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลา ที่ต่อให้โลกจะก้าวไปเร็วขนาดไหน แต่เมื่อเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดลําปางจะทําให้ได้ย้อนเวลากลับไป สัมผัสกับมนตราแห่งอดีต ที่ยังคงความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านวัฒนธรรมที่หลากหลาย ทั้งไทย จีน พม่า อินเดีย เป็นต้น ประเพณีความเป็นอยู่ สถาปัตยกรรมที่ยังคงไว้ซึ่งกลิ่นไอของอดีตอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่คอยให้ได้เดินทางไปสัมผัสถึงความสวยงามและประสบการณ์ที่ หลากหลายจากเมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลาแห่งนี้ อาทิ ย่านเมืองเก่า ตลาดจีน “กาดกองต้า” การนั่งรถม้าชมเมือง สถาปัตยกรรมเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอย่างวัดพระธาตุลําปางหลวง ฯลฯ และวัฒนธรรมกลิ่นอายล้านนาที่ยังปรากฏให้เห็นจากเสน่ห์ความหลากหลายของเมืองลําปางที่นักท่องเที่ยวจะได้มาสัมผัส เสมือนการย้อนเวลาฟกลับมาการอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้จะทําให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้ความเข้าใจ เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ และสามารถนําความรู้ที่ได้รับไปพัฒนากระบวนการทํางานและการให้บริการความรู้ในแหล่งท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะนําไปสู่การนําเสนอประสบการณ์ การท่องเที่ยวอย่างสร้างสรรค์และแปลกใหม่ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพได้ต่อไป
24/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924160526053
247,441
จังหวัดสุรินทร์ นำสินค้า OTOP จำหน่ายงาน OTOP Midyear 2023 “ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย” วันแรกสุดคึกคัก
นางจิรภา เชื้อดวงผุย พัฒนาการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้สํานักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสุรินทร์ นํากลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ร่วมจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าในงาน OTOP Midyear 2023 ระหว่างวัน 23 กันยายน-1 ตุลาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี รวม 43 บูธ ยอดจําหน่ายประจําวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 จํานวน 4,254,300 บาท ยอดสั่งจอง 203,900 บาท รวมทั้งสิ้น 4,458,200 บาท จาก1) โซนผลิตภัณฑ์ OTOP 3 - 5 ดาว แบ่งตามประเภท ได้แก่ ประเภทอาหาร จํานวน 3 บูธ ยอดจําหน่าย 18,500 บาท ยอดสั่งจอง 17,000 บาท รวมทั้งสิ้น 35,500 บาท ประเภทเครื่องดื่ม จํานวน 2 บูธ ยอดจําหน่าย 10,450 บาท ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย จํานวน 23 บูธ ยอดจําหน่าย 3,777,500 บาท ยอดสั่งจอง 135,000 บาท รวมทั้งสิ้น 3,912,500 บาท ประเภทของใช้ ของตกแต่ง และของที่ระลึก จํานวน 5 บูธ ยอดจําหน่าย 5,000 บาท และประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 12,350 บาท ยอดสั่งจอง 16,900 บาท รวมทั้งสิ้น 29,250 บาท2) โซน YOUNG OTOP จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 10,000 บาท3) โซน OTOP ON BOARD จํานวน 2 บูธ ยอดจําหน่าย 152,500 บาท ยอดสั่งจอง 25,000 บาท รวมทั้งสิ้น 177,500 บาท4) โซน OTOP PREMIUM จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 85,000 บาท 5) โซนศิลปิน OTOP จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 35,000 บาท6) โซน OTOP Online จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 12,000 บาท ยอดสั่งจอง 10,000 บาท รวมทั้งสิ้น 22,000 บาท7) โซน ตลาดกลางเส้นไหม จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 46,000 บาท8) โซน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 8,000 บาท9) โซน OTOP ชวนชิม จํานวน 1 บูธ ยอดจําหน่าย 12,000 บาททั้งนี้ บูธจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ขายดีประจําวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 อันดับ 1 ศิริพรเครื่องประดับงาช้าง อําเภอท่าตูม (ผลิตภัณฑ์กระดูกสัตว์และงา) ยอดจําหน่าย 2,850,000 บาท อันดับ 2 สังเวียนครุฑสุวรรณ อําเภอรัตนบุรี (ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม) ยอดจําหน่าย 120,000 บาท อันดับ 3 กลุ่มแม่บ้านสวาย อําเภอเมืองสุรินทร์ (ผลิตภัณฑ์ผ้าไหม) ยอดจําหน่าย 85,000 บาทบูธจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ขายดีผ่านแพลตฟอร์มตลาดของดีเมืองสุรินทร์ (surinbest.com) ประจําวันเสาร์ที่ 23 กันยายน 2566 อันดับ 1 ร้านต้อมลายไทย อําเภอเขวาสินรินทร์ (ผลิตภัณฑ์เครื่องประดับหินสี) ยอดจําหน่าย 38,000 บาท อันดับ 2 อัปสรา คอสเมติก(บุญธรรม) อําเภอปราสาท (ผลิตภัณฑ์สมุนไพรบํารุงผิว) ยอดจําหน่าย 5,100 บาท
24/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
สุรินทร์
สวท.สุรินทร์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924171814060
247,442
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดตลาดน้ำอัมพวา สืบสานวัฒนธรรมไทย ชวนนักท่องเที่ยวหิ้วตระกร้าช้อปของดี กินของเด็ด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดตลาดน้ําอัมพวา สืบสานวัฒนธรรมไทย ชวนนักท่องเที่ยวหิ้วตะกร้าช้อปของดี กินของเด็ด ปักหมุดแชะภาพ "โขนรามเกียรติ์" นั่งเรือชมหิ่งห้อยพร้อมอิ่มอร่อยกับเมนูจานเด็ด หนุนสร้างรายได้จากการท่องเที่ยววันนี้ (24 ก.ย.66) นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานพิธีเปิดตัว 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา ศึกษาวัฒนธรรมไทยประจําปีพุทธศักราช 2566 "ตลาดน้ําอัมพวา" โดยมี นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม นายศิริศักดิ์ ศิริมังคะลา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการประจําจังหวัดสมุทรสงคราม ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม/วัฒนธรรมจังหวัดวัฒนธรรม 10 จังหวัดผู้นําองค์กรท้องถิ่นและสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ ตลาดน้ําอัมพวา อําเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม กิจกรรมภายในงานมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมชุดและ "แม่กลองเมืองงาม" การแสดงโขนในเรือ จากชมรมศิลปะวัฒนธรรมอัมพวา การมอบเกียรติบัตรให้แก่ผู้สนับสนุนการขับเคลื่อนตลาดน้ําอัมพวา พร้อมเดินเยี่ยมชมตลาดน้ําอัมพวา ชมการสาธิตภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม CPOT/CCOT ชมนิทรรศการการถ่ายภาพ "ตลาดน้ําอัมพวา"รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวด้วยว่า กระทรวงวัฒนธรรมมีเป้าหมายและพันธกิจสําคัญในการเทิดทูนสถาบันหลัก รักษาสืบทอด พัฒนาอย่างยั่งยืน มุ่งขับเคลื่อนเพื่อปรับบทบาทสู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน จึงได้ดําเนินโครงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจด้วยทุนทางวัฒนธรรม ส่งเสริมอัตลักษณ์ชุมชน สู่เส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมโดยดําเนินการพัฒนาศักยภาพเส้นทางท่องเที่ยวตลาดน้ําสืบสานวัฒนธรรมไทยและจัดพิธีเปิดตัว 10 ตลาดน้ํา 10 ตลาดบกตลาดน้ําวัฒนธรรมไทยประจําปี 2566 ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับประชาชนพร้อมสนับสนุนช่องทางการตลาดประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ในวงกว้างสําหรับเส้นทางท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม 10 ตลาดบก 6 ตลาดน้ํา สืบสานวัฒนธรรมไทยประจําปี 2566 มีตลาดบกและตลาดน้ําที่ได้รับการคัดเลือกจํานวน 16 แห่ง ประกอบด้วย ตลาดบก 10 แห่ง ได้แก่ 1.ตลาดเก่าหัวตะเข้กรุงเทพมหานคร 2.ตลาดคลองบางหลวงกรุงเทพฯ 3.ตลาดจีนชากแง้ว. จังหวัดชลบุรี4.ตลาดวัฒนธรรมชุมชนวัดศรีสุพรรณจังหวัดเชียงใหม่ 5.ถนนคนเดินกาดช่วงเมืองน่านจังหวัดน่าน 6.ตลาดสู้ศึกคึกคัก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 7.ตลาดเชียงคาน เมืองสีสัน วัฒนธรรมริมโขงจังหวัดเลย 8.ตลาดริมน้ําคลองแคน ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน จังหวัดสงขลา 9.ตลาดตรอกโรงยา จังหวัดอุทัยธานี 10.ตลาดเขมราษฎร์ธานี จังหวัดอุบลราชธานี ด้านตลาดน้ํา 6 แห่ง ได้แก่ 1.ตลาดน้ํากรุงเก่าวัดท่าการ้องจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 2.ตลาดน้ํากลางป่ากวางโจว จังหวัดเพชรบุรี 3.ตลาดน้ําเหล่าตั๊กลัก จังหวัดราชบุรี 4.ตลาดน้ําคลองแห จังหวัดสงขลา 5.ตลาดน้ําบางน้ําผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ และ6.ตลาดน้ําอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โดยจะดําเนินการจัดเปิดตัวทั้งภายในเดือนพฤศจิกายน 2566 ทั้งนี้ เพื่อยกระดับให้รู้จักในวงกว้าง เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างเสริมเสริมอาชีพให้แก่ประชาชน จากการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรมผ่านตลาดบกและตลาดน้ํา
24/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
สมุทรสงคราม
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสงคราม
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230924194839077
247,443
ผ้าไหมสุรินทร์ มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม
ผ้าไหมจังหวัดสุรินทร์ ถือเป็นมรดก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ที่สืบทอดกันมายาวนาน ด้วยการนําอัตลักษณ์ความเป็นไทย ถ่ายทอดลงบนผืนผ้า ปัจจุบันได้มีการทําการตลาด สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จัก อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่ในระดับประเทศ ไปจนถึงนานาชาติ ติดตามได้จากรายงานสายข่าว NBT
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230926193322706
247,444
ท่าอากาศยานไทย ยืนยันวันแรก มาตรการ Free VISA เข้าไทย เจ้าหน้าที่และระบบรองรับไว้อย่างเพียงพอ
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อํานวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) (AOT) กล่าวถึงการเตรียมพร้อมรับวันแรกของมาตรการ Free VISA เข้าไทย สําหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ว่า เพื่ออํานวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ลดปัญหาผู้โดยสารรอคิวนานในกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ได้ประสานสํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช.) ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยรับขาเข้า-ออก เพื่อให้ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมืองได้เร็ว ไม่เกิน 30 นาที การรอรับกระเป๋าจะไม่ต้องรอนานอีก เพราะได้ประสานได้ บริษัท การบินไทย จํากัด มหาชน และบริษัท บีเอฟเอส คาร์โก้ ดีเอ็มเค จํากัด ไปก่อนหน้านี้ให้รับเจ้าหน้าที่กลับเข้าทํางานเร็วที่สุด หลังผ่านประสบการณ์ขาดคนจากพิษโควิด ตอนนี้ 2 บริษัทสามารถจัดการกระเป๋าได้รวม 800 เที่ยวบินต่อวัน หมดปัญหารอกระเป๋านาน เว้นแต่ในวันที่มีพายุที่รถขนกระเป๋าไม่อาจปฏิบัติงานในช่วงฝนตก ฟ้าร้องได้ ส่วนขาออก ได้เพิ่มระบบการเช็คอินและโหลดกระเป๋า ที่ประชาชนทําได้เอง ยืนยันวันแรกของมาตรการ Free VISA วันนี้ ท่าอากาศยาน ของ AOT ทั้ง 6 แห่ง พร้อมแล้วในการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้าไทย นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กล่าวด้วยว่า มาตรการ Free VISA สําหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ในส่วนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นมากคือ จีน โดยขณะนี้นักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 80 จากเดิมเข้าไทย ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา มีจํานวน 350,000 คนต่อเดือน แต่เดือน ต.ค. นี้มียอดจองเข้าไทย อยู่ที่ 620,000 คน เที่ยวบินไทย-จีน เพิ่มขึ้นจาก 200 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 320 เที่ยวบิน เป็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสําคัญซึ่งคาดเป็นผลจากมาตรการ Free VISA
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925085221094
247,445
สินค้า OTOP จังหวัดลำปาง มียอดจำหน่ายในงาน OTOP Midyear 2023 สะสม 2 วัน กว่า 8 แสนบาท
นายจําลักษ์ กันเพ็ชร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เข้าเยี่ยมชมและให้กําลังใจผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP จังหวัดลําปาง ในงาน OTOP Midyear 2023 "ที่สุดแห่งภูมิปัญญา รังสรรค์จากการพัฒนา เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจไทย" ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 กันยายน -1 ตุลาคม 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2 - 3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรีจังหวัดลําปางมีผู้ผลิต/ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ภายในงานฯ จํานวน 26 บูธ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร 8 บูธ ประเภทเครื่องดื่ม 2 บูธ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 5 บูธ ประเภทของใช้ของตกแต่งของที่ระลึก 6 บูธ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 2 บูธ ประเภทศิลปิน OTOP 1 บูธ ประเภท OTOP ชวนชิม 1 บูธ และประเภท OTOP Online 1 บูธทั้งนี้ ยอดจําหน่ายประจําวันที่ 24 กันยายน 2566 จํานวน 295,997 บาท ยอดสั่งซื้อประจําวันที่ 24 กันยายน 2566 จํานวน 132,400 บาท รวมยอดจําหน่ายและสั่งซื้อสะสม 2 วัน 806,645 บาท และผู้ประกอบการที่มียอดจําหน่ายประจําวัน สูงสุด 3 ลําดับ คือ กลุ่มศิลปิน OTOP (ไม้แกะสลัก) อ.งาว ยอดจําหน่าย 45,000 ยอดสั่งซื้อ 90,000 บาท กลุ่ม OTOP Online (กลุ่มผลิตภัณฑ์ศิรดา) อ.เกาะคา ยอดจําหน่าย 12,700 ยอดสั่งซื้อ 25,000 บาท และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเย็บปักถักร้อย อ.แม่เมาะ ยอดจําหน่าย 35,250 บาท
25/9/2023
ภาคเหนือ
ลำปาง
สวท.ลำปาง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925101603125
247,446
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลท่าอิฐ นำไข่ไก่มาจัดจำหน่ายในราคาประหยัด”
วันนี้ (25 ก.ย. 66) เวลา 09.00 น. นายปรีดา เชื้อผู้ดี นายกองค์การบริหารส่วนตําบลท่าอิฐ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และที่ปรึกษาจุฬาราชมนตรี ร่วมจําหน่ายไข่ไก่ในราคาประหยัด ตามนโยบายกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทําให้สามารถซื้อไข่ไก่ได้ในราคาที่ประหยัดขึ้น ได้รับความอนุเคราะห์จากพาณิชย์จังหวัดนนทบุรีนําไข่ไก่ในราคาพิเศษมากจัดจําหน่าย ฯ ในโครงการธงฟ้าราคาประหยัด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากสํานักงานพาณิชย์จังหวัดนนทบุรี พนักงาน อบต.ท่าอิฐ และประชาชนชาวตําบลท่าอิฐ ให้ความสนใจร่วมซื้อไข่ไก่เป็นจํานวนมาก โดยจัดจําหน่ายไข่ไก่เบอร์ 3 ในราคาแผงละ 105 บาท ณ สนามกีฬาอเนกประสงค์ องค์การบริหารส่วนตําบลท่าอิฐ อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
นนทบุรี
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925111248144
247,447
นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวแรก ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) ที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสายการบินแอร์ เอเชียเอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ 761 เส้นทางเซียงไฮ้-สุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทั้งหมด 341 คน โดยแบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 306 คนและนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นจํานวน 35 คน โดยนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะมอบของที่ระลึก เป็นพวงมาลัยกล้วยไม้ พร้อมกางเกงช้าง ให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังมีการแสดงกลองยาวและป้ายภาษาจีนต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นนิมิตหมายอันดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน โดยมั่นใจนโยบายนี้จะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมากและที่สําคัญนักท่องเที่ยวต้องมีความปลอดภัยและได้รับการต้อนรับอย่างดี ทั้งนี้จะกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนให้เที่ยวครอบคลุมหลายเมือง โดยสนับสนุนให้เที่ยวเมืองรองมากยิ่งขึ้น เพื่อให้พํานักในไทยยาวขึ้น มีเงินใช้สอยมากขึ้นด้วย อีกทั้งการตรวจคนเข้าเมืองก็เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นจุดที่สําคัญที่สุด ทั้งนี้ระหว่างเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) ได้พูดคุยกับนายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจําประเทศไทยว่าเป็นโอกาสดีที่ช่วงนี้ประเทศไทยกําลังจัดการจําหน่ายสินค้าโอทอป ก็จะถือโอกาสเชิญชวนนักท่องเที่ยวชาวจีนไปท่องเที่ยวและจับจ่ายสินค้าของไทยด้วยสําหรับท่าอากาศยานอีก 3 แห่ง ททท. ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ท่าอากาศยานดอนเมือง จํานวน 3 เที่ยวบิน ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จํานวน 2 เที่ยวบิน และท่าอากาศยานภูเก็ต ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน 1 เที่ยวบิน และจากจีน 3 เที่ยวบินททท. คาดการณ์ว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption)ในช่วง 5 เดือน จะมีจํานวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศประมาณ 2,888,500 คน สร้างรายได้ 140,313 ล้านบาท
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
Radio-สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925110114139
247,448
ผู้ว่าฯ ศรีสะเกษ ร่วมรับฟังการนำเสนอโครงการและให้ข้อคิดเห็น และมอบวุฒิบัตรฯ การฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นใหม่
ที่ห้องศรีลําดวน 2 โรงแรมศรีลําดวน อําเภอเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัด ร่วมรับฟังการนําเสนอโครงการและให้ข้อคิดเห็นและมอบวุฒิบัตรฯ การฝึกอบรมตามโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นําคลื่นใหม่ (Young public and private collaboration : YPC) ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2566ในการจัดอบรมตามโครงการดังกล่าว ได้ดําเนินการตั้งแต่ระหว่างวันที่ 22 - 24 กันยายน 2566 สําหรับวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการอบรมได้มีการฝึกอบรมและให้นําเสนอโครงการสําหรับบรรจุในแผนการพัฒนาจังหวัด รายกลุ่ม โดยคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมรับฟังการนําเสนอและให้ข้อคิดเห็นประกอบด้วย1. นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ2. นายวัฒนา พุฒิชาติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ3.นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัด/ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด4. ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมือง5. นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัดซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีเป้าหมายสร้างผู้นําการเปลี่ยนแปลงที่มีศักยภาพสูงในจังหวัดเพื่อพัฒนาระบบราชการและเศรษฐกิจ ซึ่งประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และคนรุ่นใหม่โดยบูรณาการขับเคลื่อนร่วมกัน จากนั้น นายสํารวย เกษกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรแก่ผู้ผ่านการอบรม จํานวน 40 ราย ประกอบด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และคนรุ่นใหม่ โดยมีนายวัฒนา พุฒิชาติ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจําจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัด ดร.ฉัฐมงคล อังคสกุลเกียรติ นายกเทศมนตรีเมือง นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ ประธานหอการค้าจังหวัด นายวิทยา วิรารัตน์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัด/ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัด นายนคร บุตรดีวงศ์ พาณิชย์จังหวัด นายสฤษฏิ์ นาควารินทร์ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าจังหวัด นายบุญยเกียรติ ทวีสุขศิริ เลขาธิการหอการค้าจังหวัด เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าอบรมร่วมดังกล่าว
25/9/2023
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ศรีสะเกษ
สวท.ศรีสะเกษ
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925111621151
247,449
รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เชื่อมั่นนโยบายวีซ่าฟรี สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ เชื่อว่านักท่องเทียวจีนจะเดินทางเข้าไทยกว่า 7 แสนคนเดือน
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ที่เดินมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตราวีซ่าฟรีของรัฐบาล ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ว่า ประทับที่ได้มีส่วนร่วมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ในส่วนภาคการท่องเที่ยวได้มีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอีกหลายแห่งที่สําคัญ ทั้ง ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยเที่ยวบินที่เปิดให้นักท่องเที่ยวจีนมีประมาณ 72เที่ยวบิน/สัปดาห์ และคาดว่าจะเปิดให้บริการเพิ่มถึง 96 เที่ยวบิน คาดว่านักท่องเทียวจีนจะเดินทางเข้าไทยในปีนี้รวมกว่า 7แสนคน/เดือนนอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อให้นักท่องเที่ยวพํานักเมืองไทยให้นานขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายที่มากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า มาตรการวีซ่าฟรีจะเข้ามาเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาอีกครั้ง
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925143808241
247,450
นักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มแรกภายใต้นโยบาย Visa Free เดินทางถึงประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่ามกลางการให้การต้อนรับจากรัฐบาลไทยและเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย
เมื่อเวลาประมาณ 10.35 น. ที่ผ่านมา ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เที่ยวบิน XJ 761 สายการบิน Thai AirAsia X เส้นทางบินตรงเซี่ยงไฮ้-สุวรรณภูมิ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 341 ราย ถือเป็นเที่ยวบินแรกของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากรัฐบาลไทยประกาศยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดพิธีต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถานใน 4 ท่าอากาศยานหลัก สุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยการท่องเที่ยว ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสําคัญ เพราะการท่องเที่ยวจะเป็นกุญแจดอกแรกในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงานให้กับประชาชนเป็นจํานวนมาก หนึ่งในมาตรการ Quick Win คือ มาตรการเชิงรุกด้านการอํานวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Traveling) ผ่านมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) สําหรับผู้ที่ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย ลงวันที่ 18 กันยายน 2566 ซึ่งทั้งสองตลาดถือเป็นตลาดศักยภาพและมีอัตราการเติบโตอย่างมีนัยยะสําคัญต่อการฟื้นฟูภาพรวมการท่องเที่ยวไทย มั่นใจว่านโยบายนี้จะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมาก นอกเหนือจากการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้วเหนือสิ่งอื่นใดการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินทางมาจนถึงก้าวสุดท้ายต้องมีความปลอดภัยและความประทับใจ และได้รับการต้อนรับอย่างดีจากทุกคน.....เสียงนายกฯท่องเที่ยวทั้งนี้นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้มอบของที่ระลึก เป็นพวงมาลัยกล้วยไม้ พร้อมกางเกงช้าง ให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เดินทางเข้ามามายังประเทศไทยด้านนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยด้วยความประทับที่ได้มีส่วนร่วมในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน ในส่วนภาคการท่องเที่ยวได้มีเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับอีกหลายแห่งที่สําคัญ ทั้ง ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีเที่ยวบินให้บริการเพิ่มถึง 96 เที่ยวบิน คาดว่านักท่องเทียวจีนจะเดินทางเข้าไทยในปีนี้รวมกว่า 700,000 คนต่อเดือน]ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า มาตรการ Visa Free จะเป็นกลไกสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะช่วยพลิกฟื้นการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้กลับมาอีกครั้ง นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรองเพื่อให้นักท่องเที่ยวพํานักเมืองไทยให้นานขึ้น ส่งผลให้มีการใช้จ่ายที่มากขึ้น เชื่อมั่นว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925143412238
247,451
ภูเก็ต ททท. ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต
วันนี้ (25 ก.ย.66) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถานและสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งเป็น 1 ใน 4 พื้นที่จัดงานฯ ทั่วประเทศ หลังจากรัฐบาลไทยประกาศนโยบายเร่งด่วน เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Travelling) ด้วยมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566-วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว พร้อมผลักดันจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตามเป้าหมาย 25-30 ล้านคน ภายในปี 2566สําหรับกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต โดยมีนายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา Mr. Emil Kuliiev ที่ปรึกษากงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคาซัคสถาน จังหวัดภูเก็ต นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อํานวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อํานวยการสํานักงาน ททท. สํานักงานภูเก็ต นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) และนางสาวอุรฉัท ปัญญาวุธ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจําประเทศไทย สายการบิน Air Astana และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน เที่ยวบิน KC 563 สายการบิน Air Astana เส้นทางบินตรงจากอัลมาตี้ ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 09.25 น. ด้วยความจุผู้โดยสาร 166 ที่นั่ง โดย ร.อ. ชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัสตานา ร่วมเดินทางพร้อมคณะ รวมถึงสื่อมวลชนจากคาซัคสถานร่วมเดินทาง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและสํารวจแหล่งท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. ส่งมอบบรรยากาศแห่งความประทับใจถึงนักท่องเที่ยวทันทีที่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยการแสดงหุ่นกระบอกจากสยามนิรมิต ภูเก็ต พร้อมมอบพวงมาลัยต้อนรับและของที่ระลึก กางเกงช้าง และตุ๊กตาช้าง เพื่อสะท้อนมิตรไมตรีและสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ําให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยวตลาดนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน ถือเป็นตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพและเป็นตลาดใหญ่ในเอเชียกลาง มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจจากการเปิดเส้นทางการบินสู่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มเติมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยปัจจุบันมีจํานวนนักท่องเที่ยวคาซัคสถานเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด-19 เกือบเท่าตัวจากประมาณ 56,529 คนในปี 2562 เป็น 109,865 คนในปัจจุบัน (ณ วันที่ 17 ก.ย.66) ซึ่งมีวันพักเฉลี่ยอยู่ที่ 14.03 วัน ค่าใช้จ่าย 4,365.25 บาทต่อคนต่อวัน ส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวรูปแบบกลุ่มครอบครัว และนิยมท่องเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-มีนาคม (ฤดูหนาว) ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงประจํา (Regular Fight) เส้นทางบินนครอัลมาตี้-ภูเก็ต โดยสายการบิน Air Astana ความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 - เมษายน 2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนควบคู่กับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อดันสู่เป้าหมายจํานวนนักท่องเที่ยวคาซัคสถานอยู่ที่ 150,000 คน ภายในปี 2566 ขณะที่คาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจํานวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาทนอกจากนี้ ททท. ยังได้จัดให้มีการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จํานวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน CA 717 สายการบิน Air China ความจุผู้โดยสาร 158 ที่นั่ง เดินทางจากหางโจว ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 15.00 น. เที่ยวบิน 9C8667 สายการบิน Spring Airlines ความจุผู้โดยสาร 180 ที่นั่ง เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 16.15 น. และเที่ยวบิน CA 821 สายการบิน Air China ความจุผู้โดยสาร 237 ที่นั่ง เดินทางจากปักกิ่งถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 17.45 น.สําหรับตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566-17 กันยายน 2566 มีจํานวนสะสม ทั้งสิ้น 2,341,080 คน โดยนักท่องเที่ยวมีวันพักเฉลี่ย 7.8 วัน และค่าใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 50,766 บาท ซึ่งจังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน อันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร คาดว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมายรายได้ 257,500 ล้านบาท ในปี 2566ทั้งนี้ ททท.ยังได้ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชนในพื้นที่จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานอีก 3 แห่ง ดังนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จํานวน 1 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน XJ 761 สายการบิน Thai Air Asia X จากเซี่ยงไฮ้ท่าอากาศยานดอนเมือง จํานวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน FD583 สายการบิน Thai Air Asia จากคุนหมิง เที่ยวบิน SL935 สายการบิน Thai Lion Air จากฉางซา และเที่ยวบิน DD3111 สายการบิน Nok Air จากหนานหนิง ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จํานวน 2 เที่ยวบิน สายการบิน China Eastern Airlines ได้แก่ เที่ยวบิน MU 205 จากเซี่ยงไฮ้ และเที่ยวบิน MU 2563 จากคุนหมิง โดยแต่ละพื้นที่ได้จัดพิธีต้อนรับ การแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อมมอบพวงมาลัยและของที่ระลึก เพื่อต้อนรับสร้างความประทับใจและแสดงถึงความพร้อมของประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางที่สําคัญของการท่องเที่ยว
25/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925133102187
247,452
นักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน เที่ยวบินแรก จำนวน 166 คน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Free) ที่ ท่าอากาศยานภูเก็ต เต็มไปด้วยความประทับจากการต้อนรับที่นำเอกลักษณ์ความเป็นไทยมาให้การต้อนรับ
วันนี้ (25 ก.ย.66) บรรยากาศที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว เที่ยวบินแรกจากสาธารณรัฐคาสักสถาน ตามมาตรการวีซ่าฟรี ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนในการอํานวยความสะดวก สําหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ของนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมี นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา พร้อมด้วย ที่ปรึกษากงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคาซัคสถาน จังหวัดภูเก็ต นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อํานวยการท่าอากาศยานภูเก็ต และคณะจากภาครัฐและเอกชนมารอให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน เที่ยวบิน KC 563 สายการบิน Air Astana เส้นทางบินตรงจากอัลมาตี้ ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 09.25 น. พร้อมด้วยผู้โดยสาร 166 คน ซึ่งมี ร.อ.ชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัสตานา ร่วมเดินทางพร้อมคณะ และสื่อมวลชนจากคาซัคสถานที่มา สํารวจแหล่งท่องเที่ยวเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสําหรับบรรยากาศเต็มไปด้วยความประทับใจด้วยการแสดงหุ่นกระบอกจากสยามนิรมิต ภูเก็ต พร้อมมอบพวงมาลัย ของที่ระลึก กางเกงช้าง และตุ๊กตาช้าง เพื่อสะท้อนความเป็นไทยและสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์ Amazing Thailandน และนอกจากเที่ยวบินนี้แล้ว ยังมีอีก 3 เที่ยวบินจากจีน ได้แก่ เที่ยวบิน CA 717 สายการบิน Air China พร้อมผู้โดยสาร 158 คน จากหางโจว เดินทางถึงเวลา 15.00 น. จากนั้น เที่ยวบิน 9C8667 สายการบิน Spring Airlines ผู้โดยสาร 180 คน เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ ถึงเวลา 16.15 น. และเที่ยวบิน CA 821 สายการบิน Air China ผู้โดยสาร 237 คน เดินทางจากปักกิ่ง ถึงในเวลา 17.45 น.อย่างไรก็ตาม สําหรับทุกเที่ยวบินจะมีการต้อนรับด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรม พร้อมมอบพวงมาลัยและของที่ระลึก เพื่อสร้างความประทับใจและแสดงถึงความพร้อมในการเป็นจุดหมายปลายทางที่สําคัญของการท่องเที่ยว
25/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925135624208
247,453
ชาวมาเลเซียข้ามแดนแห่ซื้อขนมไหว้พระจันทร์ร้านเก่าแก่เมืองเบตงเปิดมากว่า 50 ปีคึกคัก
วันนี้ (25 ก.ย.66) ที่ร้านบั่นฮวด ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อําเภอเบตง จังหวัดยะลา ร้านขายขนมไหว้พระจันทร์ดั้งเดิมของเมืองเบตง โดยบรรยากาศการซื้อของรับเทศกาลไหว้พระจันทร์เป็นไปอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งในวันที่ 29 ก.ย.นี้ เป็นวันไหว้พระจันทร์ ทําให้ที่ร้านบั่นฮวดก่อนถึงวันไหว้ ซึ่งเป็นร้านที่เป็นทั้งผู้ผลิตและผู้จําหน่ายขนมไหว้พระจันทร์ รวมถึงขนมช่วงเทศกาลต่างๆ โดยเปิดขายมานานกว่า 51 ปีนางอุไรวรรณ แซ่เอี้ย เจ้าของร้านขนมบั่นฮวด เล่าว่าภายหลังเงิน 1 ริงกิตมาเลเซียลดลลง สามารถแลกเป็นเงินไทยได้เพียง 7.59 บาท ส่งผลกระทบต่อชาวมาเลเซีย ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เนื่องจากจะต้องแลกเงินริงกิตมาเลเซียเป็นเงินไทยเข้ามาใช้จ่ายและซื้อสิ่งของในประเทศไทย เพราะร้านค้าบางร้านไม่รับเงินริงกิตมาเลเซีย จะรับเป็นเงินไทยเท่านั้น จากสถานการณ์ดังกล่าว ทําให้ต้องเพิ่มปริมาณการทําขนมมากกว่า 50% โดยเฉพาะเป็นออเดอร์สั่งจองจากขาประจําจากมาเลเซีย โดยที่ร้านจะขายขนมไหว้พระจันทร์ให่สดทุกวันโดยมีไส้อยู่ 5 อย่างเป็นหลัก และจะเลือกเฉพาะไส้ที่ได้รับความนิยมอย่างถั่วเหลือง ถั่วดํา โหงวยิ้ง และไส้ธัญพืชผสมฟักเชื่อม งาดํา บัวไข่ ทุเรียน บัวเจ โดยลูกค้าประจําจะโทรจองขนมไว้ล่วงหน้า ทําให้ลูกค้าขาจรที่ตั้งใจมาซื้อหน้าร้านคิดว่าจะได้ของสดใหม่ต้องผิดหวังกลับไปในบ้างครั้งเพราะไม่มีขนมขาย โดยขนมไหว้พระจันทร์จะขายหมดก่อนถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 29 กันยายน 2566 ชาวมาเลเซียจะเดินทางมาซื้อเป็นจํานวนมาก เพราะชอบมากในรสชาติ กรรมวิธีของชาวจีนเบตงดั้งเดิมและที่สําคัญในปีนี้ร้านบั่นฮวดยังปรับราคาขึ้นเพราะเนื่องจากค่าเงินมาเลเซียลดลง จึงยังขายราคาเดิมเหมือนปีที่แล้วทําให้ยอดขายเพิ่มครึ่งเท่าตัว เนื่องจากชาวมาเลเซียจะหันมาสั่งขนมไหว้พระจันทร์ททางฝั่งมาก เนื่องจากภายในประเทศขนมไหว้พระจันทร์มีราคาสูงขึ้น เพราะค่าเงินริงกิตลดลง นางอุไรวรรณ บอกอีกว่า ปีนี้วัตถุดิบหลักอย่างแป้งปรับราคาปรับขึ้นหมด แต่ขนมบางอย่างทางร้านยังคงขายราคาเดิม แต่ที่ต้องปรับขึ้นมา 5-10 บาท มีขนมไหว้พระจันทร์ ขนาดกลาง จําหน่ายราคาลูกละ 90 บาท แพก 4 ลูก รวมแพกเกจ ราคา 400 บาท ส่วนขนมโก๋ขาว ลูกละ 40 บาท ขนมโก๋เหลือง 1 ห่อมี 4 แผ่นห่อละ 95 บาท ขนมเปี๊ยะเล็ก ลูกละ 170 บาท เปี๊ยะใหญ่ลูกละ 350 บาท แต่จากการสังเกตลูกค้าจะลดปริมาณการซื้อลงเพราะต้องการประหยัดรายจ่าย แต่ยังคงไหว้เพื่อรักษาประเพณีเอาไว้เจ้าของร้านขนมบั่นฮวด ยังบอกอีกว่า ช่วงนี้ชาวมาเลเซียเดินทางเข้ามาเยอะทําให้การค้าขายดีขึ้น ก่อนหน้านี้ช่วงปิดประเทศทางร้านยังต้องส่งไปถึงมาเลเซีย พอเปิดประเทศเขาก็เดินทางมาเอง มาซื้อเอง และได้เข้ามาเที่ยวเมืองเบตงด้วย
25/9/2023
ภาคใต้
ยะลา
สวท.เบตง จ.ยะลา
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925141758228
247,454
กระทรวงพาณิชย์ เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม FTA ไทยกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รอบ 4 ที่กรุงเทพมหานคร วันที่ 26-28 ก.ย.นี้
นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมเจรจาจัดทํา FTA หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (CEPA) กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) รอบที่ 4 ระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนนี้ ที่กรุงเทพฯ ซึ่งตั้งเป้าสรุปผลเจรจาให้สําเร็จโดยเร็ว ตามนโยบายรัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา ที่ให้เร่งเจรจากรอบความร่วมมือทางการค้าระหว่างประเทศ โดยการเจรจารอบนี้ จะประกอบด้วย การประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าระหว่างหัวหน้าคณะผู้แทนสองฝ่าย เพื่อกํากับดูแลติดตามภาพรวมการเจรจา และการประชุมคณะทํางานกลุ่มย่อย 5 คณะ โดยเบื้องต้นประเมินว่า การจัดทํา CEPA ระหว่างไทยกับยูเออี จะช่วยให้ GDP ของไทยขยายตัว มูลค่า 318-357 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 11,136-12,499 บาท และการส่งออกของไทยในภาพรวม ขยายตัว มูลค่า 190-243 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6,652-8,508 ล้านบาท สําหรับสินค้าที่คาดว่าไทยจะส่งออกไปยูเออีได้มากขึ้น อาทิ สินค้าอาหาร สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย ผลิตภัณฑ์ที่ทําจากหนังสัตว์ ไม้ ยาง พลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์และชิ้นส่วน ส่วนสาขาบริการที่คาดว่าจะมีธุรกรรมระหว่างกันเพิ่มขึ้น อาทิ การขนส่ง การเงิน และบริการด้านธุรกิจ
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925152429271
247,455
กระทรวงอุตสาหกรรม ปลื้มความสำเร็จผู้ประกอบการไทย มุ่งผลักดันซอฟต์พาวเวอร์หนุนอาหาร-แฟชั่น-งานแฟร์ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจเพิ่มรายได้ให้ชุมชน
นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม จัดงาน “มัดทอใจ มรดกผ้าไทยร่วมสมัย ภายใต้โครงการพัฒนาผ้าไหมไทยร่วมสมัย (Premium Thai Silk ) ประจําปี 2566 ขึ้น เพื่อขยายตลาดไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น รัสเซีย อิตาลี และยุโรป ซึ่งได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ซื้อเป็นอย่างดี โดยภายในงานมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ในรูปแบบใหม่ ผ่านความคิดสร้างสรรค์และอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม ผสมผสานเทคโนโลยี ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม จนสามารถผลิตผ้าไหมได้ถึง 24 ผลิตภัณฑ์ จาก 8 วิสาหกิจชุมชน สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจได้กว่า 7,000,000 บาท และทําให้ชุมชนที่เข้าร่วมโครงการมีรายได้เพิ่มขึ้น 400,000 – 1,700,000 บาทต่อชุมชนนอกจากนี้ ยังมีการจัดงาน "อุตสาหกรรมแฟร์" กระจายตามพื้นที่ต่าง ๆ จํานวน 14 ครั้ง สามารถสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจถึง 700 ล้านบาท สําหรับ ปี 2567 มีแผนการจัดงานแฟร์อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการบูรณาการกับหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมขยายขอบเขตบกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการปั้นผู้ประกอบการใหม่ที่สามารถพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้สินค้าไทยสามารถเติบโตในตลาดโลกและสร้างความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจชุมชนไทย
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925151540264
247,456
กระทรวงอุตสาหกรรมผนึกจังหวัดสมุทรสาครปฏิบัติการสุดซอยตรวจโรงงานแบบบูรณาการ 4 ด้าน “ดิน น้ำ ลม ไฟ”
วันนี้ (25 กันยายน 2566) เมื่อเวลา 09.00 น. กระทรวงอุตสาหกรรมลุยปฏิบัติการ “สุดซอย” ตรวจเข้ม โรงงานนอกกรอบไม่รายงานข้อมูลการประกอบการอุตสาหกรรมตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ผ่านระบบการลงทะเบียนลูกค้ากระทรวงอุตสาหกรรม (i-Industry) และระบบการรายงาน ข้อมูลกลาง (iSingleForm) โดยลงตรวจโรงงานแบบบูรณาการ “ดิน น้ํา ลม ไฟ” ที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งหากพบผิดจริงจะดําเนินการตามกฎหมายทันที โทษร้ายแรงถึงขั้นการเพิกถอนใบอนุญาตประกอบกิจการ โดยในวันนี้ นายวิษณุ ทับเที่ยง หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงาน พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและของจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่ตรวจสถานประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นในพื้นที่อําเภอเมืองฯ จังหวัดสมุทรสาคร จํานวน 2 แห่ง เป็นโรงงานที่ผลิตลวดเหล็ก และผลิตพลาสติก ซึ่งทั้ง 2 แห่งไม่มีการรายงานผ่านระบบการลงทะเบียนลูกค้ากระทรวงอุตสาหกรรม (i-Industry) และระบบการรายงาน ข้อมูลกลาง (iSingleForm) มา 2 ปี สําหรับ การลงพื้นที่ตรวจเป็นการปฏิบัติการ “สุดซอย” ที่กระทรวงอุตสาหกรรมดําเนินการ คือ การใช้ทุกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประกอบกิจการอุตสาหกรรมเข้าตรวจสอบโรงงานอย่างละเอียดเข้มข้นแบบสุดซอยครอบคลุมทุกมิติ ภายใต้กฎหมายของกระทรวงฯ ทั้ง 4 ด้าน คือ 1) ดิน -กํากับดูแลโรงงานเพื่อควบคุมการดําเนินการเรื่องกากอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการลักลอบทิ้ง 2) น้ํา-กํากับการระบายน้ําออกนอกบริเวณโรงงานเพื่อดูแลแม่น้ําลําคลองและพื้นที่โดยรอบ 3) ลม-กํากับดูแลการปล่อยมลพิษทางอากาศของโรงงาน การลักลอบเผาอ้อย เพื่อลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 และ 4) ไฟ-กํากับดูแลความปลอดภัยต่างๆ ในโรงงาน ตรวจสอบอุปกรณ์ภายในโรงงานให้เป็นไปตามมาตรฐานป้องกันเหตุเพลิงไหม้ๆ ซึ่งในเบื้องต้น ยังไม่พบการกระทําผิดทั้ง 4 ด้าน แต่ผิดที่ไม่รายงานผ่านระบบ i-Industry และระบบ iSingleForm ซึ่งก็จะมีโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 2 แสน ส่วนในการตรวจสอบเชิงลึกทั้ง 4 ด้านจะต้องรอผลการตรวจสอบ ซึ่งหากพบการกระทําความผิดมีการประกอบการที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ก่อเหตุเดือดร้อนรําคาญให้กับประชาชน หรือส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม จะดําเนินการตามกฎหมายของการประกอบกิจการและลงโทษอย่างจริงจังทันที รวมทั้งสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโรงงาน หรือถูกระงับการประกอบกิจการตามกฎหมายมาตรา 37 และ มาตรา 39 พ.ร.บ.โรงงาน นอกจากจะดําเนินการตามกฎหมายของกระทรวงฯ อย่างเคร่งครัดแล้ว หากยังพบปัญหาการกระทําผิด ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่น ๆ นอกเหนือจากกฎหมายภายใต้กระทรวงฯ จะประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม บีโอไอ เป็นต้น เพื่อให้หน่วยงานดังกล่าวพิจารณาดําเนินการตรวจสอบตามกฎหมาย ต่อไป
25/9/2023
ภาคตะวันตก
สมุทรสาคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925135611207
247,457
ทอท. พร้อมเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกจุดตรวจคนเข้าเมืองรองรับปริมาณผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อํานวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า ปัจจุบันมีสายการบินทั้งภายในและระหว่างประเทศ ให้บริการเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 850 เที่ยวบินต่อวัน รวมผู้โดยสารเฉลี่ย 140,000 คนต่อวัน ทั้งนี้คาดว่า เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของไทยช่วงปลายปีนี้ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบาย Visa Free ให้กับนักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน จะส่งผลให้มีปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ดังนั้นเพื่อเป็นการรองรับความต้องการเดินทางของผู้โดยสาร ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เร่งดําเนินการเพิ่มเติมสิ่งอํานวยความสะดวกทั้ง เคาร์เตอร์เช็คอิน เคาร์เตอร์ตรวจเอกสารคนเข้า-ออกเมือง เพิ่มจุดตรวจคนด้วยเครื่อง Auto Channal รองรับหนังสือเดินทางจากนักท่องเที่ยวจากชาติ จาก 16 เครื่องเป็น 48 เครื่องในไตรมาสแรกของปี 2567 เพื่อเพิ่มศักยภาพของ ตม. บริเวณจุดด่านตรวจคนเข้าเมืองให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 28 กันยายนนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมเปิดให้บริการอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) แบบ Soft Opening ควบคู่ไปกับอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building) ที่ผ่านการทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบทั้ง 3 ครั้งจนมั่นใจในการให้บริการ เบื้องต้นในช่วงแรกจะเปิดให้บริการ 3 สายการบิน ประกอบด้วย สายการบิน Thai AirAsia X สายการบิน Thai veit Jet Air และสายการบิน Mahan Air ลดการใช้ระบบรีโมทหรือรถขนถ่ายผู้โดยสารเพื่อขึ้นเครื่องบิน
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925143127236
247,458
ล่องเรือเที่ยวคลองฝั่งธนบุรี ชูอัตลักษณ์ชุมชนฯ
กรุงเทพมหานคร ทําการสํารวจและบูรณาการทุกภาคส่วน รวมถึงชุมชนโดยรอบพื้นที่ริมคลองฝั่งธนบุรี ที่เรียกได้ว่าเป็นคลองสายประวัติศาสตร์ สร้างสรรค์ให้เป็นเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวแห่งการเรียนรู้ สืบสาน ต่อยอดและพัฒนาวิถีถิ่น ให้เป็นที่รู้จักในคนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวได้สัมผัส ติดตามได้จากรายงานสายข่าว NBT
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
หน่วยงานสำนักข่าว
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925155726289
247,459
ททท. คาดการณ์ มาตรการวีซ่าฟรีจะสามารถทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไทย 4.4 ล้านคน มุ่งสร้างรายได้ 257,500 ล้านบาทในปี 2566
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กันยายน 2566 จํานวน 2,284,281 คน ถือเป็นตลาดนักท่องเที่ยวอันดับที่ 2 รองจากมาเลเซียที่เดินทางเข้าประเทศไทยมากที่สุด ซึ่งมาตรการในการยกเว้นการตรวจลงตราของรัฐบาล ( Visa Exemption) ตั้งแต่วันนี้ (25 ก.ย 66) ถึง วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เป็นระยะเวลาประมาณ 5 เดือนนั้น จะเป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยในการกระตุ้นตลาด ทําให้มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าประเทศไทยจํานวน 4.4 ล้านคน และมุ่งสู่เป้าหมายรายได้ที่ตั้งไว้ 257,500 ล้านบาทในปี 2566 เนื่องจากเป็นการอํานวยความสะดวกในการเดินทางของนักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาในการขอตรวจลงตรา และไม่เสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนตัดสินใจเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 1- 8 ตุลาคมนี้ ที่จะเป็นช่วง Golden week ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมออกเดินทางท่องเที่ยว ประกอบกับพันธมิตรด้านสายการบินมีความพร้อมจัดทําเที่ยวบินเช่าเหมาลํา (Charter Flight) และเพิ่มความถี่ของเที่ยวบิน ตลอดจนการเปิดเส้นทางการบินใหม่ และระยะเวลาของมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรายังครอบคลุมถึงช่วงเทศกาลวันหยุดปีใหม่และตรุษจีนที่จะช่วยส่งเสริมกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวในช่วงต้นปี 2567 อีกด้วย
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925142743234
247,460
ผู้ว่าฯ ภูเก็ต นำทีมผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ตประชุมร่วมกับกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจำจังหวัดภูเก็ต เพื่อหารือแนวทางการดูแลนักท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต
วันนี้ (25 ก.ย.66) เวลา 10.00 น. ณ ห้องประชุมมุขหน้า ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต (หลังใหม่) ศูนย์ราชการจังหวัดภูเก็ตนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วย นางรัชดาภรณ์ โออิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต, นายสมสุข สัมพันธ์ประทีป รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต, นางสาวเสมอจิต ลิ่มลิขิต หัวหน้าสํานักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ภูเก็ต, นายสุบัญชา อินทฤทธิ์ ผู้อํานวยการศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดภูเก็ต, พันตํารวจเอก ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการ ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต และผู้บริหารของจังหวัดภูเก็ต ประชุมร่วมกับกงสุลและกงสุลกิตติมศักดิ์ประจําจังหวัดภูเก็ตโดยการประชุมในวันนี้กงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจําจังหวัดภูเก็ต ประกอบด้วย กงสุลใหญ่ออสเตรเลีย, กงสุลกิตติมศักดิ์บราซิล (Brazil), กงสุลใหญ่ออสเตรีย(Austria), กงสุลกิตติมศักดิ์ชิลี (Chile), กงสุลกิตติมศักดิ์ (England), กงสุลกิตติมศักดิ์เอสโตเนีย (Estonia), กงสุลกิตติมศักดิ์ฝรั่งเศส (France), กงสุลกิตติมศักดิ์เยอรมัน(Germany), กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเกาหลี (Korea), กงสุลกิตติมศักดิ์เม็กซิโก (Mexico),กงสุลกิตติมศักดิ์เนปาล (Nepal), กงสุลกิตติมศักดิ์มองโกเลีย (Mongolia), กงสุลกิตติมศักดิ์นอร์เวย์ (Norway), กงสุลกิตติมศักดิ์เนเธอร์แลนด์ (Netherlands) เข้าร่วมนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จังหวัดภูเก็ตขอขอบคุณกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ประจําจังหวัดภูเก็ต ทุกประเทศที่ให้การสนับสนุนในการดําเนินงานในการดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดี ทั้งนี้จังหวัดภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจํานวนมาก ดังนั้นการขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบจึงเป็นสิ่งที่สําคัญ เพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีความสุขสงบเรียบร้อยพันตํารวจเอก ธเนศ สุขชัย ผู้กํากับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานข้อมูลความสําเร็จของโครงการที่พักสีขาวฯ และนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการฟรีวีซ่าสัญชาติจีนและคาซัคสถาน ว่า- เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2566 ได้มีการกําหนดรายชื่อประเทศฯ เดินทางเข้ามาเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา และให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ไม่เกิน 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ เป็นระยะเวลา 5 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย.66 ถึงวันที่ 29 ก.พ.67- การกระตุ้นเศรษฐกิจที่เคยใช้1) สมัยนายกประยุทธ์ : ใช้การยกเว้นการเก็บค่าธรรมเนียม แต่ต้องมายื่นคําร้องที่ ตม.สนามบิน หรือหน้าด่าน2) ให้วีซ่า TR15 โดยที่ไม่ต้องมาขอวีซ่าที่หน้าด่าน แต่ยังคงผ่านการตรวจระบบ BIOMETRICS ก่อนเข้าเมือง3) (แบบปัจจุบัน) คล้ายๆ กับแบบที่2 แต่ให้สิทธิเป็น ผ.30ซึ่งวีซ่าแบบ ผ.30 : อยู่ได้ 30 วัน ต่อได้ครั้งเดียว 30 วัน และสามารถยื่นเปลี่ยนวีซ่า เพื่อขออยู่ต่อระยะยาวได้ด้วย- สถิตินักท่องเที่ยวก่อนโควิด-19 ปี 2018 เปรียบเทียบ ปี 20231) จีน• นทท. 2018 = 2,193,967 คน• นทท. 2023 ( 1 ม.ค. - 21 ก.ย.23) = 377,830 คน (ปี 2023 น้อยลงกว่าปี 2018 คิดเป็น 83%)• ขออยู่ต่อ 2018 = 8,333 คน• ขออยู่ต่อ 2023 = 2,898 คน (ปี 2023 น้อยลงกว่าปี 2018 คิดเป็น 66%)2) คาซัค• นทท. 2018 = 18,507 คน• นทท. 2023 (1 ม.ค.-21 ก.ย.23) = 89,350 คน (ปี 2023 มากกว่าปี 2018 คิดเป็น 483%)• ขออยู่ต่อ 2018 = 363 คน• ขออยู่ต่อ 2023 = 500 คน (ปี 2023 มากกว่าปี 2018 คิดเป็น 137.74%)- มาตรการในการดูแล นทท.ต่างชาติ ของ จ.ภูเก็ต ได้ใช้การขับเคลื่อนโครงการที่พักสีขาวฯ เป็นมาตรการหลัก1) สถิติ ต่างชาติเดินทางเข้า vs แจ้งที่พัก (เดือน ส.ค.)• นนท. = 309,253 คน• แจ้งที่พัก ตาม มาตรา 38 พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ = 412,515 คน2) มิติในการจับกุมคนร้าย• สามารถจับกุมเคสปล้นคริปโต ที่พักอาศัยอยู่บ้านเช่าได้อย่างทันท่วงที• สามารถจับกุม overstay จากพะงัน ที่แอบเข้ามาภูเก็ตได้ทันที3) มิติในการช่วยเหลือดูแล นทท.• ช่วยเหลือญาติชาวเดนมาร์กติดตามคุณพ่อสูงอายุ ที่เดินทางมาเที่ยวภูเก็ตแล้วติดต่อไม่ได้• ช่วยเหลือชาว UAE มาเที่ยวแล้วจําโรงแรมที่พักตนเองไม่ได้4) ความพร้อมของ ชป. มีการประชุม operation ทุกวันศุกร์ โดย รอง ผบก.ภ.จว. เป็นประธานหมุนเวียนสัปดาห์ละ 2-3 สภ.5) Back Office ระบบหลังบ้าน• สนับสนุนการตรวจสอบข้อมูล (CCOC) เสริมเขี้ยวเล็บให้กับตํารวจภูธร• ทําบันทึกตักเตือน เจ้าของที่พัก (ใบเหลือง) เคสที่ต่างชาติทําผิด แล้วส่งผลโดยตรงกับความสงบเรียบร้อยของคนภูเก็ต• ทําบันทึกตักเตือน ต่างชาติ (ใบเหลือง) ที่กระทําผิดไม่ถึงกับจําคุก (เพิกถอน) แต่ปรากฏเป็นข่าวสังคมในโซเชียล จนได้รับความเสียหาย- การต่อยอดความสําเร็จ ในอนาคตจะทํา MOU กับหมู่บ้านหรู & คอนโด เพื่อให้นิติบุคคลสนับสนุนและความร่วมมือในการตรวจสอบคนต่างด้าวที่มาพักอาศัย-สภาพปัญหา : ตั้งแต่วันที่ 15 ก.ย.66 สตม.ได้เปลี่ยนแปลงระบบการแจ้งที่พักใหม่ โดยหลังจากนี้จะต้องเร่งประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจให้ผู้ประกอบการทุกคนช่วยกันลงทะเบียนแจ้งที่พักในระบบใหม่ให้เรียบร้อยโดยเร็วที่สุดและในส่วนของโครงการที่พักสีขาวสําหรับชาวต่างชาติจังหวัดภูเก็ต เป็นต้นแบบของประเทศ โดยข้อมูลระหว่างวันที่ 1-31 สิงหาคม 2566 มีสถิตินักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในจังหวัดภูเก็ต 309,253 คน แต่มีสถิตินักท่องเที่ยวแจ้งที่พักจํานวน 412,515 ราย ข้อมูลดังกล่าว ทําให้เกิดความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยด้านการท่องเที่ยวให้แก่นักท่องเที่ยวด้านกงสุลใหญ่และกงสุลกิตติมศักดิ์ ประจําจังหวัดภูเก็ต ได้ซักถามประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับกัญชา โดยถามว่านักท่องเที่ยวสามารถซื้อได้แต่สามารถสูบกัญชาได้บริเวณใดซึ่งในเรื่องนี้รองนายแพทย์สาธารณสุขชี้แจงว่าจะสามารถสูบกัญชาได้ในบริเวณบ้านพักของตนเองเท่านั้นและจะต้องไม่สร้างความรําคาญแก่เพื่อนบ้านหรือบุคคลอื่น
25/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925145203252
247,461
ตำรวจภูธรภาค 8 เปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตส่วนหน้า ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สถานีตำรวจภูธรสาคู ภายในสนามบินภูเก็ต
วันนี้ (25 ก.ย.66) พลตํารวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 กล่าวว่า ตํารวจภูธรภาค 8 เปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว ภายในสนามบินภูเก็ต โดยการบูรณาการร่วมกําลังเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, เจ้าหน้าที่ตํารวจตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต, เจ้าหน้าที่ตํารวจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต-ลามภาษา, เจ้าหน้าที่ตํารวจในสังกัด สถานีตํารวจภูธรสาคู ตํารวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตํารวจภูธรภาค 8 และผู้ประกอบการรถสาธารณะเพื่อรักษาความปลอดภัยและอํานวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว จึงได้เน้นย้ํามาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินแก่นักท่องเที่ยว รวมถึงการอํานวยความสะดวกด้านต่างๆ เช่น การจราจร การตรวจลงตรา การรับนักท่องเที่ยว ณ จุดขึ้นรถสาธารณะ รวมถึงรถสาธารณะผ่าน application จากท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต การรวบรวมประวัติผู้ให้บริการรถยนต์สาธารณะ การตรวจสอบภาพจาก CCTV เพื่อการควบคุมสั่งการ การใช้ข้อมูลจดจําใบหน้าบุคคล Face Recognition เทคโนโลยี Biometrics เพื่อรักษาความปลอดภัย แนะนําการใช้ application : POLICE I lert U สําหรับนักท่องเที่ยวรวมทั้งการแสดงกําลังของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย show of forceอย่างไรกตาม ในแต่ละวันจะมีการรวบรวมปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติ เพื่อนําไปถอดบทเรียน ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการร่วมในการรักษาความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว (Command and Control Operation Center : C.C.O.C.) เพื่อพัฒนาการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
25/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925145421254
247,462
จังหวัดลำพูน เปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ โดยมีแผนจะรองรับการจ้างงานประมาณ 2,000 อัตรา เขตพื้นที่ NEC
พิธีเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด โดยมีแผนจะรองรับการจ้างงานประมาณ 2,000 อัตรา เขตพื้นที่ NEC ในจังหวัดลําพูนด้วยบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด ได้จัดพิธีเปิดโรงงานใหม่ ณ นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ตําบลมะเขือแจ้ อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน โดยมีนายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และกล่าวเปิดงานฯ โดยมี นายฮิโรคะซึ ซาซาฮาร่า กรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวต้อนรับ และกล่าวรายงาน มีเอกอัครราชทูตนาชิดะ คาซูยะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอํานาจเต็มแห่งสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจําประเทศไทย รองศาสตราจารย์ ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายโนริโอะ นากาจิมะ ประธานบริษัท มูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง จํากัด นายฮิกุจิ เคอิจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายจุนนิชิโระ คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สํานักงานกรุงเทพ คณะผู้บริหารฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความยินดี ร่วมพิธีเปิดเป็นจํานวนมาก จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกดปุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเปิดป้ายแพอย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเปิดโรงงานผลิตแห่งใหม่ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด ฝั่งตะวันตกเฟส 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้จะใช้ผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิก หลายชั้น (Multilayer Ceramic Capacitors) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของมูราตะ และครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40% พร้อมกันนี้บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนจะจ้างงานประมาณ 2,000 อัตราในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่ออาคารโรงงานผลิตใหม่นี้แล้วเสร็จ จะเสริมให้มูราตะมีฐานการผลิตคาปาซิเตอร์ในต่างประเทศ 4 แห่ง (นครอู๋ซี ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย) และอีกสองแห่งในประเทศญี่ปุ่น (นครฟูกูอิ และนครอิซูโมะ) ทั้งนี้มูราตะให้ความสําคัญในการพัฒนาโครงสร้างองค์กรที่จะสามารถตอบสนอง ต่อการเติบโตทั้งระยะกลางถึงระยะยาวในความต้องการตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น โดยมุ่งมั่นที่จะขยายห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การส่งมอบมีความเสถียรและต่อเนื่องด้วยการให้มีการผลิตในหลากหลายแห่ง และในปัจจุบันด้วยความแพร่หลายของสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยี 5 จี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วน เช่น อุปกรณ์สวมใส่ ส่งผลให้มีความต้องการในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความหนาแน่นของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นจึงตอบโจทย์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอ็นด์สามารถติดตั้งคาปาซิเตอร์ชนิดนี้ได้มากถึง 1,000-1,200 ตัวเลยทีเดียว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีการย่อส่วนและขีดความสามารถ ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นนี้ในระยะกลางและระยะยาว มูราตะจึงได้ขยายกําลังการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวในวงการอิเล็กทรอนิกส์ โดยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 2 ชั้นเหนือพื้นดิน โดยมีพื้นที่โครงการทั้งหมด 80,950 ตรม. พื้นที่อาคาร 35,088 ตรม. สามารถรองรับการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 ล้านเยน หรือประมาณ 2,900 ล้านบาท (เฉพาะตัวอาคาร)
25/9/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925152011268
247,463
กระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำข้อเสนอมาตรการบริหารจัดการข้าว ปีการผลิต 256667 เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพราคาข้าวในประเทศ
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้ ได้ประชุมร่วมกับสมาคมชาวนา 4 สมาคม ได้แก่ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย สมาคมชาวนาข้าวไทย สมาคมส่งเสริมชาวนาไทย สมาคมส่งเสริมเกษตรกรชาวนาอีสาน รวมทั้ง โรงสี ผู้ส่งออก ผู้ค้า และหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามสถานการณ์การผลิตข้าวเปลือก ปีการผลิต 2566/67 โดยจากข้อมูลของสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) พบว่า ปริมาณผลผลิตข้าวเปลือกนาปี คาดว่าจะอยู่ที่ 25.76 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่ 26.63 ล้านตัน หรือลดลงร้อยละ 3 ส่วนหนึ่งคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ปริมาณน้ําฝน ในช่วงต้นเดือน ต.ค.2566 เพื่อประเมินปริมาณผลผลิตข้าวได้ชัดเจนขึ้น ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนวทางมาตรการบริหารจัดการข้าว ปี 2566/67 โดยให้มีการเก็บสต็อกทั้งในส่วนของเกษตรกร สหกรณ์ โรงสี ผู้ส่งออก และผู้ประกอบการค้าเพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยทั้งในส่วนการรักษาเสถียรภาพราคาและมีสต็อกข้าวไว้เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ ขณะที่เกษตรกรได้เสนอขอให้ช่วยเหลือค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ หรือไม่เกิน 20,000 บาท/ครัวเรือน ซึ่งกรมฯ จะรวบรวมข้อเสนอทั้งหมด และนําเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (นบข.) เพื่อพิจารณาต่อไป
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925151350262
247,464
จังหวัดภูเก็ตให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน และสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต
วันนี้ (25 กันยายน 2566) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถานและสาธารณรัฐประชาชนจีน ณ ท่าอากาศยาน 4 แห่ง โดยท่าอากาศยานภูเก็ต เป็น 1 ใน 4 พื้นที่จัดงาน หลังจากรัฐบาลไทยประกาศนโยบายเร่งด่วน เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Travelling) ด้วยมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 – 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจนักท่องเที่ยว พร้อมผลักดันจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติตามเป้าหมาย 25 - 30 ล้านคน ภายในปี 2566 สําหรับกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต มี นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านตลาดยุโรป แอฟริกา ตะวันออกกลาง และอเมริกา Mr. Emil Kuliiev ที่ปรึกษากงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐคาซัคสถาน จังหวัดภูเก็ต พลตํารวจโท สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค 8 นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อํานวยการท่าอากาศยานภูเก็ต นายเลิศชาย หวังตระกูลดี ผู้อํานวยการสํานักงาน ททท.สํานักงานภูเก็ต นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเขต 11 (ภูเก็ต พังงา กระบี่) นายธเนศ ตันติพิริยะกิจ นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นางสาวอุรฉัท ปัญญาวุธ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดประจําประเทศไทย สายการบิน Air Astana และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐคาซัคสถาน เที่ยวบิน KC 563 สายการบิน Air Astana เส้นทางบินตรงจากอัลมาตี้ ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 09.25 น. ด้วยความจุผู้โดยสาร 166 ที่นั่ง นําโดย ร.อ. ชัชวรรณ สาครสินธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงอัสตานา ร่วมเดินทางพร้อมคณะ รวมถึงสื่อมวลชนจากคาซัคสถานร่วมเดินทาง เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารและสํารวจแหล่งท่องเที่ยวไทย ซึ่ง ททท. ส่งมอบบรรยากาศแห่งความประทับใจถึงนักท่องเที่ยวทันทีที่เดินทางถึงประเทศไทยด้วยการแสดงหุ่นกระบอกจากสยามนิรมิต ภูเก็ต พร้อมมอบพวงมาลัยต้อนรับและของที่ระลึก กางเกงช้าง และตุ๊กตาช้าง เพื่อสะท้อนมิตรไมตรีและสร้างความเชื่อมั่นแบรนด์ Amazing Thailand ตอกย้ําให้ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในใจของนักท่องเที่ยวตลาดนักท่องเที่ยวคาซัคสถาน ถือเป็นตลาดระยะไกลที่มีศักยภาพและเป็นตลาดใหญ่ในเอเชียกลาง มีอัตราการเติบโตที่น่าสนใจจากการเปิดเส้นทางการบินสู่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มเติมภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย โดยปัจจุบันมีจํานวนนักท่องเที่ยวคาซัคสถานเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนโควิด-19 เกือบเท่าตัวจากประมาณ 56,529 คน ในปี 2562 เป็น 109,865 คนในปัจจุบัน (ณ วันที่ 17 กันยายน 2566) ซึ่งมีวันพักเฉลี่ยอยู่ที่ 14.03 วัน ค่าใช้จ่าย 4,365.25 บาทต่อคนต่อวัน ส่วนใหญ่เดินทางท่องเที่ยวรูปแบบกลุ่มครอบครัว และนิยมท่องเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม - มีนาคม (ฤดูหนาว) ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงประจํา (Regular Fight) เส้นทางบินนครอัลมาตี้-ภูเก็ต โดยสายการบิน Air Astana ความถี่ 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2566 - เมษายน 2567 ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนควบคู่กับมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางมายังประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เพื่อดันสู่เป้าหมายจํานวนนักท่องเที่ยวคาซัคสถานอยู่ที่ 150,000 คน ภายในปี 2566 ขณะที่คาดว่าในช่วง 5 เดือนของการยกเว้นการตรวจลงตรา จะมีนักท่องเที่ยวคาซัคสถานจํานวนประมาณ 129,485 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 49.7 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้ประมาณ 7,930 ล้านบาทนอกจากนี้ ททท. ยังได้จัดให้มีการต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน จํานวน 3 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน CA 717 สายการบิน Air China ความจุผู้โดยสาร 158 ที่นั่ง เดินทางจากหางโจว ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 15.00 น. เที่ยวบิน 9C8667 สายการบิน Spring Airlines ความจุผู้โดยสาร 180 ที่นั่ง เดินทางจากเซี่ยงไฮ้ถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 16.15 น. และเที่ยวบิน CA 821 สายการบิน Air China ความจุผู้โดยสาร 237 ที่นั่ง เดินทางจากปักกิ่งถึงท่าอากาศยานภูเก็ต ในเวลา 17.45 น. สําหรับ ตลาดนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 – 17 กันยายน 2566 มีจํานวนสะสม ทั้งสิ้น 2,341,080 คน โดยนักท่องเที่ยวมีวันพักเฉลี่ย 7.8 วัน และค่าใช้จ่ายต่อทริปประมาณ 50,766 บาท ซึ่งจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวชาวจีน อันดับ 2 รองจาก กรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) จะช่วยกระตุ้นภาพรวมตลาดนักท่องเที่ยวจีนสู่เป้าหมายรายได้ 257,500 ล้านบาท ในปี 2566
25/9/2023
ภาคใต้
ภูเก็ต
สวท.ภูเก็ต
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925164320319
247,465
เปิดแล้วอย่างเป็นทางการ โรงงานผลิตแห่งใหม่ของบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนจะรองรับการจ้างงานประมาณ 2,000 อัตรา ในเขตพื้นที่ NEC ในจังหวัดลำพูน
วันนี้ (25 ก.ย.66) เวลา 10.00 น. ที่นิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ตําบลมะเขือแจ้ อําเภอเมือง จังหวัดลําพูน บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด ได้จัดพิธีเปิดโรงงานใหม่ โดยมีนายสันติธร ยิ้มละมัย ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานในพิธี พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และกล่าวเปิดงานฯ โดยมี นายฮิโรคะซึ ซาซาฮาร่า กรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวต้อนรับ และกล่าวรายงาน มีเอกอัครราชทูตคะสุยะ นะชิดะ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอํานาจเต็มแห่งสถาน เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจําประเทศไทย รองศาสตราจารย์ ดร.วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายโนริโอะ นากาจิมะ ประธานบริษัท มูราตะ แมนูแฟคเจอริ่ง จํากัด นายเคอิจิ ฮิกุจิ กงสุลใหญ่ญี่ปุ่น ณ นครเชียงใหม่ นายจุนอิจิโร คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (JETRO) สํานักงานกรุงเทพ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน คณะผู้บริหารฯ หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ พนักงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแสดงความยินดี และร่วมพิธีเปิดเป็นจํานวนมาก จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดลําพูน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยกรรมการผู้จัดการบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด และคณะผู้บริหาร ได้ร่วมกดปุ่ม อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเปิดป้ายแพ อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นการเปิดโรงงานการผลิตแห่งใหม่ ภายใต้ชื่อบริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด ฝั่งตะวันตกเฟส 1 อย่างเป็นทางการ ซึ่งอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่นี้จะใช้ผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิก หลายชั้น (Multilayer Ceramic Capacitors) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของมูราตะ และครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40% พร้อมกันนี้บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จํากัด มีแผนจะจ้างงานประมาณ 2,000 อัตราในอนาคตอันใกล้นี้ โรงงานผลิตใหม่แห่งนี้จะเสริมให้มูราตะ มีฐานการผลิตคาปาซิเตอร์ในต่างประเทศ 4 แห่ง (นครอู๋ซี ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย) และอีกสองแห่งในประเทศญี่ปุ่น (นครฟูกูอิ และนครอิซูโมะ) ทั้งนี้มูราตะ ให้ความสําคัญในการพัฒนาโครงสร้างองค์กรที่จะสามารถตอบสนองต่อการเติบโตทั้งระยะกลางถึงระยะยาวในความต้องการตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น โดยมุ่งมั่นที่จะขยายห่วงโซ่อุปทานเพื่อให้การส่งมอบมีความเสถียรและต่อเนื่องด้วยการให้มีการผลิตในหลากหลายแห่ง และในปัจจุบันด้วยความแพร่หลายของสมาร์ทโฟนที่ใช้เทคโนโลยี 5 จี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วน เช่น อุปกรณ์สวมใส่ ส่งผลให้มีความต้องการในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ย่อส่วนเพิ่มมากขึ้น รวมทั้งความหนาแน่นของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้น ตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นจึงตอบโจทย์อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์สวมใส่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอ็นด์สามารถติดตั้งคาปาซิเตอร์ชนิดนี้ได้มากถึง 1,000-1,200 ตัว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทคโนโลยีการย่อส่วนและขีดความสามารถ ดังนั้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นนี้ในระยะกลางและระยะยาว มูราตะ จึงได้ขยายกําลังการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวในวงการอิเล็กทรอนิกส์ โดยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับอาคารโรงงานผลิตแห่งใหม่ เป็นอาคาร คสล. สูง 2 ชั้นเหนือพื้นดิน โดยมีพื้นที่โครงการทั้งหมด 80,950 ตรม. พื้นที่อาคาร 35,088 ตรม. สามารถรองรับการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น ใช้งบลงทุนประมาณ 12,000 ล้านเยน หรือ ประมาณ 2,900 ล้านบาท (เฉพาะตัวอาคาร)
25/9/2023
ภาคเหนือ
ลำพูน
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925153324279
247,466
ททท. ต้อนรับนักท่องเที่ยวจีน หลังเปิดนโยบายวีซ่าฟรีวันแรก พร้อมสร้างมาตรการดูแลความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว
นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ร่วมกับพันธมิตรภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐประชาชนจีน ตามมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (VISA Exemption) ณ ท่าอากาศยานดอนเมืองหลังจากรัฐบาลไทยประกาศนโยบายเร่งด่วน เพื่ออํานวยความสะดวกในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย (Ease of Travelling) ด้วยมาตรการยกเว้นการตรวจลงตรา (Visa Exemption) เพื่อการท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ตั้งแต่ 25 กันยายน 2566 - 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทย โดยได้จัดกิจกรรมการต้อนรับนักท่องเที่ยว 3 เที่ยวบิน ด้วยการมอบพวงมาลัยและของที่ระลึก เพื่อสร้างความประทับใจในการเดินทางมาท่องเที่ยวนอกจากนี้ ททท. ได้เตรียมต่อยอดส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในตลาดจีน ภายใต้แนวคิด "สะดวก ปลอดภัย คุ้มค่าได้ประสบการณ์" โดยมุ่งเจาะกลุ่มผู้เดินทางครั้งแรก เน้นการเพิ่มค่าใช้จ่าย รักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม และใช้ Digitalเสริมพลังทางการตลาด รวมทั้งร่วมกับสํานักงานตํารวจแห่งชาติ (สตช.) ดูแลและรักษาความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ (Safety & Security) ด้วยการกําหนดมาตรการสร้างสวัสดิภาพ และช่วยเหลือดูแลนักท่องเที่ยวอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม โดยมีการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ตั้งศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว 1155 ให้นักท่องเที่ยวสามารถขอความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นการท่องเที่ยวไทยให้กับนักท่องเที่ยวจีนและกระตุ้นตลาดนักท่องเที่ยวจีนให้ฟื้นคืนอย่างสมดุลและเปลี่ยนแปลงในเชิงคุณภาพต่อไป
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925151701265
247,467
เชิญนักท่องเที่ยวสัมผัสบรรยากาศเมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนเสน่ห์ความงามมากมาย อย่างที่ “ทะเลน้อย” ชมความงดงาม ทะเลบัวยามเช้า นาข้าวริมทะเลสาบ และที่กำลังฮิตถ่ายรูปเช็ดอินบนเนินดินที่โผล่ขึ้นเหนือน้ำ กลางทะเลสาบ สุดคุ้มและคุ้มค่าหากนักท่องเที่ยวมาที่นี่ ทุกจุดสามารถเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ อวดเพื่อนๆได้ไม่แพ้ที่ใดในประเทศไทยนี่
“ทะเลน้อย” หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย หรืออุทยานนกน้ําทะเลน้อย เป็นแหล่งน้ําจืดพื้นที่ชุ่มน้ําที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยมีเนื้อที่เกือบแสนไร่ ตั้งอยู่ที่ อําเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ครอบคลุมพื้นที่สามจังหวัด พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช ทะเลน้อยมีลักษณะเป็นแอ่งน้ําจืดขนาดใหญ่ อยู่ตอนบนสุดของทะเลสาบสงขลา มีพื้นที่ส่วนน้ํามีประมาณ 17,500 ไร่ ทะเลน้อยยังเป็นแหล่งพื้นที่ชุ่มน้ําโลกด้วย หรือแรมซาร์ไซต์ทะเลน้อย (Ramsar site) เนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ทางชีวภาพเต็มไปด้วยป่าพรุ ป่าเสม็ดขาว บัวชนิดต่าง ๆ กระจูด และหญ้าพืชพรรณชนิดต่างๆเยอะมาก จึงเหมาะสําหรับเป็นที่อยู่ของนกน้ําประจําถิ่น นกอพยพจากเมืองหนาว และสัตว์หลายชนิด รวมถึงเป็นแหล่งประมงสัตว์น้ําจืดที่สําคัญของชาวบ้านในยามเช้าที่ “ทะเลน้อย” แห่งนี้ทุกวันจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมามาชมความสวยงาม โดยเฉพาะวันเสาร์ วันอาทิตย์ จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นพิเศษ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเหมาเรือในราคาลําละ 600 บาท สําหรับการสัมผัสธรรมชาติ ล่องเรือ แลนกต่างๆ เช่น นกอีโก้ง เป็ดแดง นกกระยาง นกกาลักน้ําเล็ก นกช้อยหอย นกตีนเทียน ชมบัว เช่นบัวหลวง บัวเผื่อน บัวบา และ “บัวสาย” ที่เป็นสายพันธุ์บัวที่มีมากที่สุดในทะเลสาบแห่งนี้ (บัวสายหลาย ๆ คน นิยมเรียกกันว่า “บัวแดง”) อันงดงามเต็มท้องน้ําที่ดูน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่ง ดูควายที่อาศัยและหากินอยู่ในทะเลสาบและริมทะเลสาบ ที่ชาวบ้านเรียกว่า “ควายน้ํา” แต่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “ควายปลัก” และได้ขึ้นทะเบียนการเลี้ยงควายปลักและระบบนิเวศในพื้นที่ชุ่มน้ําทะเลน้อย เป็นพื้นที่มรดกทางการเกษตรโลกแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 ที่ผ่านมานอกจากนั้นในช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะได้ชมต้นข้าวที่ออกรวงและกําลังสุกเหลืองอร่าม อยู่ในทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของชาวบ้านริมทะเลสาบ และกําลังเป็นสถานที่ยอดฮิตกลางทะเลสาบนั้นคือ เนินดินที่โผล่ขึ้นเหนือผิวน้ําพร้อมหญ้าที่เขียวขจรี นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปถ่ายรูปสวยๆ เช็ดอินได้หลากหลายมุม เช่นวิวทะเลสาบและท้องฟ้า ถ่ายรูปกับเรือที่นักท่องเที่ยวเดินทางมา และที่พลาดไม่ได้หากนักท่องเที่ยวลงเรือตั้งแต่เช้าตรู่ จะได้ชมและสัมผัสแสงแรกของเช้าวันใหม่ใต้ “ยอยักษ์” บริเวณคลองปากประ ตั้งอยู่ที่ บ้านปากประ ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง เป็นลําคลองที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ มีสายน้ําไหลไปออกยังทะเลสาบ เป็นวิถีชีวิต ที่โดดเด่นไปด้วยการทําประมงพื้นบ้านในรูปแบบของการยก “ยอยักษ์” เพื่อหาปลาและสัตว์น้ําอื่นๆ ของชาวบ้านจังหวัดพัทลุงจึงขอเชิญนักท่องเที่ยว สัมผัสบรรยากาศเมืองเล็ก ๆ ที่ซ่อนเสน่ห์ความงามมากมาย อย่างที่ “ทะเลน้อย” สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมายาวนาน ชมความงดงาม ทะเลบัวยามเช้า นาข้าวริมทะเลสาบ ถ่ายรูปเช็ดอินบนเนินดินที่โผล่ขึ้นเหนือน้ํา กลางทะเลสาบ ที่สุดคุ้มและคุ้มค่าหากนักท่องเที่ยวมาที่นี่ ทุกจุดสามารถเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ อวดเพื่อนๆได้ไม่แพ้ที่ใดในประเทศไทยนี่
25/9/2023
ภาคใต้
พัทลุง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดพัทลุง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925172617331
247,468
นนทบุรีเปิดงาน “วันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ วิถีน้ำ วิถีนนท์” 2566 รองรับประชาชนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
นางสาวปาณิสรา กาญจนะจิตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรี เป็นประธานเปิดงาน “โครงการวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์” ONE DAY TRIP พร้อมด้วย นางณัฎฐิรา แพงคุณ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนนทบุรี และหัวหน้าส่วนราชการ ณ วัดชลอ อําเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจลงทะเบียนและมาร่วมโครงการจํานวนมากสําหรับโครงการวันเดียวเที่ยวเมืองนนท์ ONE DAY TRIP เส้นทางท่องเที่ยวทางน้ําคลองอ้อมนนท์ นี้เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการปฏิบัติราชการของจังหวัดนนทบุรี ด้านเศรษฐกิจดี โดยส่งเสริมการท่องเที่ยวริมฝั่งคลองอ้อมนนท์ คลองที่พัฒนา ฟื้นฟู และแก้ไขปัญหาแหล่งน้ํา เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ถือเป็นคลองที่มีสถานที่สําคัญ วัด โบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยว อาทิ วัดชลอ , วัดโตนด, วัดราษฎร์ประคองธรรม,วัดอุทยาน, วัดบางอ้อยช้าง เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่จํานวนมาก อาทิ ทวดข้าวสาร, มองดูคลอง,ก๋วยเตี๋ยวทองย้อย และอื่นๆ อีกมากมาย การจัดกิจกรรมยังส่งเสริมประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการท่องเที่ยวจังหวัดนนทบุรีวิถีน้ําอย่างใกล้ชิดเป็นการเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยวให้กับชุมชนและท้องถิ่นริมคลองจากการจัดกิจกรรม ทั้งเป็นปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่อย่างยั่งยืน ที่สําคัญนักท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสวิถีน้ํา วิถีนนท์จะช่วยขยายผลการท่องเที่ยวทางน้ําของนนทบุรีให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นโดยกิจกรรมดังกล่าว จัดในวันเสาร์และวันอาทิตย์ที่ 23, 24, 30 กันยายน 2566 และวันที่ 1 ตุลาคม 2566 กลุ่มเป้าหมาย คือนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ จํานวน 600 คน แบ่งเป็นวันวันละ 150 คน ในแต่ละวัน แบ่งเป็น 3 เส้นทาง ซึ่งมีนักท่องเที่ยวสนใจเข้าร่วมกิจกรรมจํานวนมาก
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
กรุงเทพมหานคร
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนนทบุรี
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925162126306
247,469
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมเป็นเกียรติพิธีเปิดงาน OTOP Midyear 2023 โดยจังหวัดตรังมีผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมแสดงและจำหน่ายสินค้าในงาน จำนวน 15 บูท 17 ราย
วันนี้ (25 กันยายน 2566) นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมเป็นเกียรติพิธีเปิดงาน OTOP Midyear 2023 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดงาน OTOP Midyear 2023 ภายใต้แนวคิด “สุขช๊อบ สุขใจ สุขทั่วไทย รวมไว้ในที่เดียว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดแสดงและจําหน่ายผลิตภัณฑ์ “หนึ่งตําบล หนึ่งผลิตภัณฑ์” เผยแพร่และประชาสัมพันธ์การดําเนินงานโครงการ โดยการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ เพิ่มทักษะในการจัดแสดงและจําหน่ายสินค้าให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และอาหารชวนชิม ผลิตภัณฑ์ OTOP ตามนโยบายของรัฐบาล ในการเพิ่มช่องทางการตลาด สร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงสร้างการเรียนรู้แนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP แก่ผู้ประกอบการ OTOP ให้สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล จึงได้กําหนดจัดงาน OTOP Midyear 2023 ขึ้น ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 1 ตุลาคม 2566 ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพคเมืองทองธานี อําเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ จังหวัดตรังมีผู้ผลิตผู้ประกอบการ OTOP ที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเข้าร่วมแสดงและจําหน่ายสินค้าในงานดังกล่าว จํานวน 15 บูท 17 ราย ประกอบด้วย ประเภทอาหารจํานวน 6 บูท 7 ราย ประเภทเครื่องดื่มจํานวน 1 บูท 1 ราย ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย จํานวน 2 บูท 3 ราย ประเภทของใช้ ของตกแต่ง ของที่ระลึก จํานวน 3 บูท 3 ราย ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร จํานวน 1 บูท 1 รายประเภทชวนชิมจํานวน 1 บูท 1 รายและประเภทบูท ศิลปิน OTOP จํานวน 1 บูท 1 ราย
25/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925192711384
247,470
สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ นำผู้ประกอบการเข้ารับใบรับรองแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.)
วันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2566 นายพสุ สุครีวก อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ มอบหมายให้ นายวินัย บุญพึ่ง หัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผนงาน นําผู้ประกอบการเข้ารับใบรับรองแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ในวาระก่อนการประชุมคณะกรมการจังหวัดเพชรบูรณ์ ครั้งที่ 9/2566 โดยได้รับเกียรติจาก นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้มอบใบรับรองฯ ณ ห้องเมืองราด ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ (อาคาร2) จํานวน 7 ราย 9 ผลิตภัณฑ์ ดังนี้ 1. กลุ่มวิชาชีพผลิตภัณฑ์เรือนจําชั่วคราวแคน้อย ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง ผ้าพิมพ์ลายจากพืช มผช.1626/2565 ผลิตภัณฑ์ถักโครเชต์ มผช.195/2561 เสื้อผ้าสําเร็จรูปหญิง มผช.835/2564 2. นางสาวประมวลรัตน์ กองมูล ต.วังชมภู อ.เมืองเพชรบูรณ์ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เปล มผช.203/2546 3. Cross-stitch by niracha group ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง ผ้าปักครอสทิช มผช.1480/2558 4. กลุ่มทอผ้าชุมชนคุณธรรมวัดศรีสองคร ต.ห้วยไร่ อ.หล่มสักผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง กระเป๋าผ้า มผช.417/2558 5. กลุ่มทอผ้าบ้านคลองบนใต้ ต.ลาดแค อ.ชนแดน ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง เนกไท มผช.833/2558 6. กลุ่มเครื่องนอนเพื่อสุขภาพบ้านกลาง ต.วังท่าดี อ.หนองไผ่ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง หมอนสมุนไพร มผช.254/2547 7. วิสาหกิจชุมชนกลุ่มติดไม้ติดมือเขาค้อ ต.ริมสีม่วง อ.เขาค้อ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรอง ผักและผลไม้เชื่อม มผช.264/2558ทั้งนี้ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) คือ ข้อกําหนดด้านคุณภาพที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่เชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ โดยมุ่งเน้นให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กําหนดและสอดคล้องกับนโยบาย OTOP.
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
เพชรบูรณ์
สวท.เพชรบูรณ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925193043387
247,471
คณะทำงานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายกุ้งของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ อำเภอหาดสำราญ
นางสาวสุภากิตติ์ เกลี้ยงสงค์ พาณิชย์จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า คณะทํางานโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 จังหวัดตรัง ประกอบด้วยผู้แทนพาณิชย์จังหวัด ผู้แทนประมงจังหวัด ผู้แทนสหกรณ์เพาะเลี้ยงสัตว์น้ําจังหวัดตรัง และผู้แทนชมรมผู้เลี้ยงกุ้งจังหวัดตรัง ลงพื้นที่ตรวจสอบการซื้อขายกุ้งของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ในพื้นที่ อําเภอหาดสําราญ จํานวน 1 ราย ปริมาณ 3,563.53 กิโลกรัม ทั้งนี้ จังหวัดตรังได้รับจัดสรรงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ให้ดําเนินโครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ปี 2566 ซึ่งจังหวัดตรังมีเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งเข้าร่วมโครงการจํานวน 115 ราย ผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง จํานวน 3 ราย ได้จําหน่ายกุ้งตามโครงการฯตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม – 24 กันยายน 2566 รวม 83 ราย ปริมาณน้ําหนัก 228,070.03 กิโลกรัม คิดเป็นร้อยละ 76.02 จังหวัดตรังเบิกจ่ายค่าชดเชยราคากุ้งและค่าบริหารจัดการรวบรวมและกระจายกุ้ง ให้เกษตรกรแล้ว 65 ราย โดยมีปริมาณกุ้งที่ได้รับการสนับสนุนค่าชดเชยส่วนต่างราคาจํานวน 169,426.75 กิโลกรัม ในอัตรากิโลกรัมละ 20 บาท คิดเป็นเงิน 3,388,535.00 บาท สนับสนุนค่าบริหารจัดการในส่วนของใช้จ่ายดําเนินการด้านการตลาดให้เกษตรกรและผู้รวบรวมและกระจายกุ้ง ในอัตรากิโลกรัมละ 10 บาท เป็นจํานวนเงิน 1,694,267.50 บาท
25/9/2023
ภาคใต้
ตรัง
สวท.ตรัง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925192833385
247,472
กระแสศรีเทพฟีเวอร์ หลังเมืองโบราณศรีเทพได้เป็นมรดกโลก นักท่องเที่ยวคึกคักเกินคาด ทะลุ 2 หมื่นคน ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายสิทธิชัย พูดดี หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เปิดเผยว่าจากการเก็บตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ปรากฎว่าในห้วงเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์แรก หลังจากที่เมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ปรากฏว่า มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้าอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ และบริเวณโบราณสถานเขาคลังนอก ซึ่งอยู่นอกพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ รวมกว่า 2 หมื่นคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนและเจ้าหน้าที่คาดไม่ถึง ซึ่งส่งผลให้การบริการของเจ้าหน้าที่อาจยังไม่ทั่วถึงนักอย่างไรก็ตาม ตนได้หารือกับท้องถิ่นและหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเรื่องห้องสุขา และยังได้หารือกับชุมชนและชาวบ้านในการบริหารจัดการพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณด้านบนของเขาคลังนอก ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเที่ยวชมได้ ทําให้เกิดความกังวลว่า อาจจะไปสร้างความเสียหายให้กับโบราณสถานดังกล่าวได้ ส่วนอีกประเด็นที่ได้มีการหารือกับชุมชนคือ จะมีการจัดการแสดง การละเล่นพื้นเมือง มาแสดงให้กับนักท่องเที่ยวได้ชมในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ที่จะมีนักท่องเที่ยวมากกว่าวันปกติด้านนายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถสุขา จากเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี เพิ่มเติม จํานวน 2 คัน เพื่ออํานวยควาสะดวกนักท่องเที่ยว ในทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน - 29 ตุลาคม 2566 ณ the line si thep พร้อมได้มอบหมายนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดําเนินการ เพื่อเร่งจัดสรรงบประมาณ ปี 2568 ดําเนินการแก้ไขปัญหาห้องสุขา ให้เพียงพอกับปริมาณนักท่องเที่ยว และการอํานวยความสะดวกด้านอื่นๆ แก่นักท่องเที่ยว ที่จะเดินทางเข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกมากในอนาคต
25/9/2023
ภาคกลางและปริมณฑล
เพชรบูรณ์
สวท.เพชรบูรณ์
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925213951420
247,473
ระยองเปิดโครงการรณรงค์ร่วมใจลดใช้พลังงาน ให้ความรู้และสร้างจิตสำนึกในการตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า
วันที่ 25 กันยายน 2566 นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายวีรวิชญ์ ภมรสมิต พลังงานจังหวัดระยอง และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมเปิดโครงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์คนระยองร่วมใจลดใช้พลังงาน ณ หน้าหอประชุมศาลากลางจังหวัดระยอง โดยเป็นการให้ความรู้และสร้างจิตสํานึกในการตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า โดยจัดบูธนิทรรศการให้ความรู้และนวัตกรรมด้านการประหยัดพลังงานและพลังงานทางเลือก รวมถึงบูธเกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชนหรือชุมชนต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนด้านความรู้และอุปกรณ์จากสํานักงานพลังงานจังหวัดเพื่อนําไปใช้ในกระบวนการผลิตนายวีรวิชญ์ กล่าวว่า จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ราคาพลังงานมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้พลังงานในประเทศไทยและทั่วโลก รัฐบาลจึงได้มีแนวทางลดราคาพลังงานเบื้องต้นเพื่อลดภาระประชาชน แต่เป็นนโยบายชั่วคราวเท่านั้น สิ่งที่จะเป็นการลดการใช้พลังงาน ลดรายจ่ายด้านพลังงานของประชาชนที่ยั่งยืน คือ การอนุรักษ์พลังงาน ใช้พลังงานทดแทน กระทรวงพลังงานจึงได้มอบหมายให้พลังงานจังหวัดเป็นตัวอย่างและเป็นผู้นําในการขับเคลื่อนงานด้านประหยัดพลังงานให้เกิดผลอย่างรวดเร็ว โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ด้านการประหยัดพลังงาน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพให้กับประชาชน ผ่านเครือข่ายภายในจังหวัดและมีการกําหนดมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการประหยัดพลังงานในทุกภาคส่วน เพื่อให้การขับเคลื่อนจังหวัดระยองมุ่งสู่เมืองคาร์บอนต่ําและการลดใช้พลังงานในจังหวัดระยองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงจัดกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้เรื่องพลังงานทดแทนอย่างถูกต้องให้กับทุกภาคส่วน
25/9/2023
ภาคตะวันออก
ระยอง
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดระยอง
https://thainews.prd.go.th/th/news/detail/TCATG230925214744427
247,474